LINE : @mtdfc
หญิงแกร่ง แสตมป์ เรียกได้ว่าต้องยกให้เป็นที่สุดแห่งปีสำหรับผู้หญิงเลยหลังจากที่เจ้าตัวนั้น พิสูจน์ฝีมือหญิงแกร่ง คว้ารางวัล “นักสู้ MMA หญิงยอดเยี่ยมประจำปี 2564” อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้ต้องยอมรับเลยว่า ปี 2564 ถือเป็นปีแห่งบทพิสูจน์ครั้งสำคัญ ของเธอจริงๆ สำหรับ แสตมป์ หญิงแกร่ง ต้องยอมรับเลยสำหรับนาย ฐานะนักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) จากนักมวยไทยที่ความรู้ในกีฬาประเภทนี้เป็นศูนย์ เธอค่อย ๆ เดินทีละก้าวโดยไม่เคยย่อท้อ จนวันนี้ เธอคือแชมป์เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวตหญิง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “เบอร์หนึ่ง” ของรุ่น วัน แชมเปียนชิพ จึงตัดสินใจยกรางวัล “นักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) หญิงยอดเยี่ยมประจำปี 2564” ให้ แสตมป์ โดยไม่มีข้อกังขา
สำหรับหญิงแกร่งคนนี้นั้นต้องยอมรับเลยว่า ปัจจุบันนี้ถึงแม้ว่าจะอายุแค่ 24 ปี แต่เป็น 3 วันนี้ว่างเธอคนนี้นั้นเคยผ่านจุดสูงสุดของเส้นทางอาชีพมาแล้วจากการคว้าเข็มขัดสองเส้นในกีฬามวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง แต่หลังจากถูกระชากเข็มขัดไปจนไม่เหลือ เธอจึงตัดสินใจเลือกเดินในเส้นทางสายที่ 3 ในกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน โดยมีเป้าหมายที่จะได้ครองแชมป์ในประเภทกีฬานี้
หากย้อนกลับไปกับความสำเร็จณปัจจุบัน และความสำเร็จในอดีตนั้นเรียกได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เธอนั้นจะสามารถมาถึงทุกวันนี้ได้ เพราะจ้าจะย้อนกลับไปนับตั้งแต่ศึก MMA ครั้งแรกบนเวที ONE ในปี 2562 แสตมป์แผ้วถางเส้นทางสายนี้ด้วยฟอร์มโดดเด่นโดยสั่งสมสถิติ 5 ไฟต์ไร้พ่าย แต่ แสตมป์ต้องสะดุดเมื่อเธอลิ้มรสความพ่ายแพ้ครั้งแรกให้แก่เจ้าแม่อาร์มบาร์ชาวยูเครน “อาลีโอนา ราสโซฮินา” ในศึก ONE: UNBREAKABLE III เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ท่ามกลางกระแสดรามาว่า แสตมป์แท็ปหรือไม่
แต่แน่นอนว่าสำหรับผู้หญิงคนนี้นั้น ใจของเธอนั้นเกินร้อย จะเห็นได้ว่าถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคอะไรมามากมายถึงที่สำคัญก็คือ ความพ่ายแพ้ครั้งนั้น มันไม่ได้เป็นอุปสรรคในการที่จะสร้างความยิ่งใหญ่ของเธอเลย เพราะมันกลายเป็นแรงผลักดันให้แสตมป์
เก็บตัวฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วง แล้วเป้าหมายสำคัญไม่ใช่อะไร แต่กลับเป็นสิ่งที่ต้องทำไม่ได้นั่นก็คือ การที่ได้กลับมาสางแค้น อาลีโอนา เมื่อโอกาสอำนวย และแล้ววันที่รอคอยของ แสตมป์ก็มาถึง เมื่อเธอได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 8 สาวแกร่ง ที่ได้ลงแข่งขันในศึก การต่อสู้แบบผสมผสานหญิงล้วนครั้งประวัติศาสตร์ “เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวตหญิง” และถูกประกบคู่กับอริเก่า อาลีโอนา ในรอบแรกของการแข่งขัน
แน่นอนว่าโอกาสกลับมาอีกครั้ง และโอกาสในครั้งนี้นั้นเป็นครั้งสำคัญนั่นก็คือ นัดล้างตาของสองสาวระเบิดขึ้นในศึก ONE: EMPOWER เมื่อวันศุกร์ที่ 3 กันยายน ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดนั่นก็คือการเตรียมตัวมาอย่างดี โดย แสตมป์โชว์ให้เห็นทักษะเกมนอนที่พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และสามารถเบียดชนะคะแนนอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ ลอยลำเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ
เชื่อเหลือเกินว่าครั้งนั้นหลายคนยังจำได้โดยเฉพาะแฟนมวยที่ติดตาม ในรอบรองชนะเลิศที่จัดขึ้นในศึก ONE: NEXTGEN เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคก่อนขึ้นชก นั่นก็คือมีการเปลี่ยนคู่ชกกะทันหัน จากเดิมที่ แสตมป์ต้องเจอกับ “ซอ ฮี ฮาม”
แต่ต้องโคจรมาพบกับของแข็งที่เรียกว่าหนักใจไม่น้อยสำหรับการที่ต้องมา เผชิญหน้ากับ “จูลี เมซาบาร์บา” นักสู้มากประสบการณ์ในสาย MMA ที่เข้ามาเสียบแทน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะ แสตมป์งัดเอาวิชามวยไทยที่ถนัดจัดการสาวแซมบาด้วยคะแนนเอกฉันท์ ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ
เรียกว่าแค่นิดเดียวเท่านั้น หรือแค่ปลายจมูกเพียงแค่นิดเดียวจริงๆ ที่ แสตมป์จะแตะถึงแชมป์ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ แต่อุปสรรคก็ยังมีต่อมาเรื่อยๆนั่นก็คือ เธอต้องเจอกับคู่แข่งสายแข็ง “The Indian Tigress” ริตู โฟกาต นักมวยปล้ำสาวขวัญใจแดนโรตีที่หลายคนมองว่ามีภาษีเหนือกว่าในเกมปล้ำที่อาจทำให้ แสตมป์เสียเปรียบ แต่เป็นอีกครั้งที่ แสตมป์โชว์ศักยภาพความเป็นนักสู้ MMA ได้อย่างน่าทึ่ง
สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำเอาเซอร์ไพรส์คนดูนั่นก็คือการที่ สาวแสตมป์ จัดหนักจัดเต็มชนิดที่ช็อกโลกด้วยการจับ ริตู ล็อกคอด้วยท่า Triangle และพลิกไปล็อกแขนในท่าอาร์มบาร์ จนแชมป์มวยปล้ำอินเดียถอดใจต้องแท็ปเอาต์ ส่งให้ แสตมป์คว้าเข็มขัดสีเงินมาพาดบ่าสมใจ
และความประสบความสำเร็จในครั้งนั้นเอง เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการชนะแบบช็อกแฟนมวยทั่วโลกในครั้งนั้นมันส่งผลทำให้ แสตมป์ กลายเป็นแชมป์ MMA หญิงคนแรกของไทย ไม่เท่านั้นเพราะเธอยังกลายเป็น นักกีฬาคนแรกในประวัติศาสตร์ ONE ที่คว้าเข็มขัดแชมป์ในสามประเภทกีฬา เรียกว่าสร้างความประทับใจให้กับคนไทยทั่วประเทศ แน่นอนว่าการที่มาถึงจุดนี้ แสตมป์จึงพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเธอคือนักสู้หัวใจแกร่งที่กล้าท้าฝันโดยไม่หวั่นต่ออุปสรรคใด ๆ สมกับรางวัลนักสู้ MMA หญิงยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง
สิ่งสำคัญที่สุดเชื่อเหลือเกินว่าความสำเร็จยังไม่จบเลยแค่นี้อย่างแน่นอนสำหรับความยิ่งใหญ่ของผู้หญิงคนนี้ แสตมป์ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดเป็นที่ทราบกันดีว่าเธอนั้นอายุยังน้อยและ ยังมีบททดสอบต่อไปรออยู่ในปี 2565 โดยต้องเผชิญหน้ากับ “Unstoppable” แองเจลา ลี แชมป์โลก ONE รุ่นอะตอมเวต ซึ่ง แสตมป์จะได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งว่าเธอเหมาะสมที่จะนั่งบัลลังก์ในฐานะแชมป์โลกคนใหม่หรือไม่
ติดตามข่าวสารทุกวงการมวยได้ที่ muaytoday.com
แทงมวยออนไลน์ ราคาน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย
