บิ๊กแดง ปรับแผนเข้ม ในการที่จะกลับมาจัดมวยไทย ก.ย.นี้

บิ๊กแดง พร้อมด้วย เสี่ยชาย โกสปอร์ต ยืนยันชัดเจนแล้วเตรียมปรับแผนครั้งใหญ่สำหรับการที่จะทำให้ พื้นที่จอดรถชั้น 5 ของเวทีลุมพินีเป็นสตูดิโอมวยไทยเป็นระบบเอาท์ดอร์ โดยสิ่งสำคัญที่สุดยังคงพัฒนาและดำเนินการเหมือนเดิมนั่นก็คือการที่จะ นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ประกอบการถ่ายทอดสดมวยกลับมา และสิ่งสำคัญที่สุดและมองข้ามไม่ได้นั่นก็คือการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ยังคงจำกัดผู้ชมไม่เกิน 20คน โดยเฉพาะนักมวย พี่เลี้ยงและ กรรมการ จะมีการตรวจจากรพ.จุฬาฯ

ความเคลื่อนไหวของวงการมวยล่าสุดนี้เป็นเรื่องราวที่ดีและเป็นสัญญาณที่ดีเป็นอย่างมากสำหรับ การที่วงการมวยนัดจะกลับมาเคลื่อนไหวและเดือนหน้าอีกครั้งโดยล่าสุดนี้ทางด้าน พลโทสุชาติ แดงประไพ นายสนามมวยลุมพินี พร้อมด้วย เสี่ยชาย โกสปอร์ต เผยไอเดียสุดบรรเจิดเตรียมปรับเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่โดยการที่จะนำเอา พื้นที่จอดรถชั้น 5 ของเวทีลุมพินีเป็นสตูดิโอมวยไทยเป็นระบบเอาท์ดอร์ นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ประกอบการถ่ายทอดสดมวยกลับมา นอกจากนั้นยังจำกัดผู้ชมไม่เกิน 20คน 

สำคัญที่สุดนั่นก็คือการจำกัด นักมวย พี่เลี้ยงและกรรมการ และจะมีการตรวจเข้ม มีการตรวจสวอปจมูก และตรวจเลือดจากรพ.จุฬาฯ 2 วันก่อนแข่งขัน และถ้าหากว่านักมวยนั้นมีอาการ ทางด้านรายการนั้นก็จะมีการกักตัวนักมวยและพี่เลี้ยง 4 วันก่อนมวยชก และ หลังชกต้องรายงานตัวเป็นระยะเวลา14 วันต่อแพทย์สนามลุมพินี

อย่างไรก็ตามทุกอย่างนั้นจะเกิดขึ้นได้แน่นอนแต่สิ่งสำคัญที่สุดก็ต้องรอทาง ภาครัฐผ่อนคลายล็อกในช่วงสิ้นเดือนนี้ก็จะเริ่มจัดมวยได้ในต้นเดือนกันยายนทันที  เสี่ยชาย โกสปอร์ต เผยได้ทุ่มทุนเพื่อทำสตูดิโอมวยระบบไฮเทคขึ้นมาเพื่อช่วยให้นักมวยมีทางทำมาหากิน และมั่นใจว่าการนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยจะทำให้การถ่ายทอดสดออกมาสมบูรณ์แบบ

ซึ่งอย่างไรก็ตามโดยทางด้าน พล.ท.สุชาติ แดงประไพ นายสนามมวยเวทีลุมพินี ยังได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับนักข่าวด้วยว่า  เรื่องนี้ตนในฐานะนายสนามมวยลุมพินีไม่ได้นิ่งนอนใจอยู่แล้วในสิ่งที่กำลังที่จะเกิดขึ้น และที่ผ่านมานั้นยอมรับเลยว่าเห็นใจนักมวยและหัวหน้าคณะที่ต้องมาเจอสภาพแบบนี้ สิ่งสำคัญที่สุดต้องหาทางออก และเมื่อสนามมวยคือต้นทางของอาชีพนักมวยจึงต้องหาทางช่วยเหลือซึ่งตนได้ไปหารือกับ ศบค.ชุดเล็ก มาแล้วเกี่ยวกับมาตรการป้องกันที่เข้มงวด

และปัจจุบันนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงและได้คำแนะนำมาปรับใช้โดยเฉพาะการจัดมวยในระบบเอาท์ดอร์ สิ่งสำคัญที่สุดก็เพื่อให้การระบายอากาศคล่องตัวกว่าเดิม โดยการที่เอาพื้นที่จอดรถชั้น 5 มาปรับปรุงเป็นสตูดิโอมวยไทย โดยร่วมกับ เสี่ยชาย โกสปอร์ต ซึ่งจะใช้ระบบเทคโนโลยีมาใช้ด้วยทั้งภาพคนดู และเสียงเชียร์ เหมือนกับฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เคยทำมาก่อน

วันนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชั้น 5 ได้มีทุกอย่างที่ทำให้ปลอดภัยขึ้นและเรื่องความยิ่งใหญ่ไม่ต้องห่วงเพราะ มีการปรับเป็นสตูดิโอมวยไทย นำเอาระบบบลูสกรีนมาใช้ จะมีเสียงเชียร์ เสียงปี่กลอง และภาพของแฟนมวยประกอบการชก และจะมีการแบ่งห้องบรรยายแยกออกไป รวมไปถึงห้องควบคุมต่างๆ ในเวทีจะมีคนร่วมกิจกรรมไม่ถึง 20 คนด้วยซ้ำ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติของศบค.

แน่นอนว่าหลายคนคงห่วงมาตรการความปลอดภัยต่างๆ โดยในส่วนนั้นทางด้าน พล.ท.สุชาติ เผยว่าตนได้ทำเอกสารเพื่อชี้แจ้งให้กับฝ่ายแพทย์ของ ศบค.ซึ่งก็ได้รับคำชมว่าเข้มงวดมาก โดยจะจำกัดทางเข้าและออกเพียงทางเดียง และมีจุดคัดกรองอาการไข้ ไอ หอบ เหนื่อย เป็นหวัดสำหรับนักมวย พี่เลี้ยง เจ้าหน้าที่ และ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ต้องไม่เกิน 20 คน โดยทางเข้าจะมีจุดวัดอุณหภูมิ และ เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ

และสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับมาตรการพิเศษลุมพินีไม่นิ่งนอนใจอย่างแน่นอนเพราะวางแผนไว้แล้ว จะมีการตรวจร่างกายของนักมวยอย่างละเอียดย้ำว่าอย่างละเอียด และกรรมการ จะเพิ่มการตรวจเลือดจากแลปของรพ.จุฬาลงกรณ์ 2 วัน ก่อนแข่งอีกด้วย สิ่งสำคัญที่สุดก็เพื่อความปลอดภัยและถ้าหากใครคนใดไม่ผ่านก็ไม่ได้ชกส่วนเจ้าหน้าที่เวทีโปรโมเตอร์ ทีมงานถ่ายทอดสด และผู้เกี่ยวข้อง จะต้องตรวจคัดกรองจากทีมแลปของรพ.จุฬาฯ โดยจะตรวจก่อนแข่งขัน 2 วัน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ถ้าผลตรวจเป็นลบก็จะดำเนินงานต่อไปได้ แต่ถ้าผลบวกทางทีมงานจะยกเลิกการแข่งขันทันที

ทั้งนี้ขอประกาศไว้ในที่นี้เลยสำหรับคนที่ไม่เกี่ยวข้อง ถึงแม้ว่าจะเป็นทีมงานที่ไม่เกี่ยวข้องก็ตาม ทางด้านลุมพินีจะใช้ระบบปิดไม่ให้แฟนมวยเข้าชม และจะมีการกักตัวนักมวย และพี่เลี้ยง 4 วันก่อนแข่งขันในสถานที่ลุมพินีจัดไว้ให้ หลังแข่งขันเสร็จจะต้องรายงานตัวกับแพทย์สนามลุมพินีเป็นระยะเวลา 14 วัน ส่วนผู้ตัดสินบนเวทีจะหลีกเลี่ยงการสัมผัสตัวนักมวยโดยใช้สัญญาณมือหรือเสียงแทน นอกจากนั้นผู้บริหารเวที โปรโมเตอร์ ทีมงานถ่ายทอดสด นักมวย และผู้เกี่ยวข้องต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือเฟสชิลด์ภายในสนามมวย”

อย่างไรก็ตามทางด้าน บิ๊กแดง ยังทิ้งท้ายด้วยว่า มาตรการดังกล่าวที่สร้างมาทั้งหมดนั้นไม่ใช่เพื่อใครทั้งหมด สิ่งสำคัญที่สุดนั่นก็คือเพื่อต้องการให้วงการมวยขับเคลื่อนต่อไปได้ ปัจจุบันนี้เป็นที่ทราบกันดีว่ากำลังย่ำแย่มากสำหรับวงการมวย ซึ่งถ้าหากปลายเดือนสิงหาคมภาครัฐผ่อนคลายล็อก ถ้ามีความเป็นไปได้นั้นทางด้านลุมพินี ก็จะเริ่มจัดมวยได้ในช่วงเดือนกันยายนต่อไป โดยตนจะเข้าหารือกับผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยในเร็วๆนี้ และยินดีถ้าหากรายการมวยช่องอื่นๆทั้งช่อง 3 ,ช่อง 7 จะมาใช้สถานที่ของเวทีลุมพินี เพื่อให้นักมวยมีอาชีพเลี้ยงตัวเองได้เพราะโควิดยังอยู่กับเราอีกนาน เราจึงต้องหาทางป้องกันให้ดีที่สุด

อย่างไรก็ตามปิดท้ายทางด้าน เสี่ยชาย โกสปอร์ต ยังได้เปิดใจทิ้งท้ายด้วยว่า การที่ลุมพินีมาจัดในระบบเปิด เป็นเอาท์ดอร์ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยเหลือนักมวย หัวหน้าคณะ ให้มีที่ทำมาหากินได้ ซึ่งต้องฝากภาครัฐบาลให้เห็นใจคนระดับรากหญ้าด้วย ลุมพินีก็มีแผนงานป้องกันที่เข้มงวดมากขนาดนี้ และ โกสปอร์ตก็เอาเทคโนโลยีมาช่วยเชื่อว่าจะทำให้การถ่ายทอดสดสมบูรณ์แบบแน่นอน

ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจุบันนี้ไม่ว่าวงการไหนๆก็เดือดร้อนกันทั้งนั้น และเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2564 วันนี้สดๆร้อนๆประเทศไทยของเราทะลุไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ 1 ล้านคน สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายงานจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือศบค.รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันนี้ ว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 19,851 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อใหม่ 19,526 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 325 ราย ผู้ป่วยสะสม 980,847 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน 64 ) วันนี้ยอดติดเชื้อสะสม 1,009,710 ราย เสียชีวิตสะสม 8,826 ราย มีรายงานผู้ป่วยอาการหนักวันนี้ 5,388 ใส่เครื่องช่วยหายใจ 1,161 ราย

ติดตามข่าวสารทุกวงการมวยได้ที่ muaytoday.com

แทงมวยออนไลน์ ราคาน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย