บังมาด เปิดคู่มือ 17 ข้อเสนอ ศบค. มวยไทยกลับมาชกอีกครั้ง

บังมาด สามารถ มะลูลีม บุคคลที่หลายคนทราบกันดีว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่มีสายเลือดมวยไทยแรงกล้า โดยปัจจุบันนี้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาคณะทำงานด้านการเมือง ประธานสภาผู้แทนราษฎร อย่างไรก็ตามล่าสุดนี้ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นและออกมาเผยแนวทางที่น่าสนใจมาก สำหรับการที่เจ้าตัวนั้นได้ทำคู่มือคู่มือการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด นำเสนอไปยัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เพื่อนำเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ประธานศบค. เพื่อให้มวยไทยกลับมาแข่งขันได้อีกครั้งภายใต้มาตรการเข้มงวด 17 ข้อ

เรียกได้ว่าวงการมวยเริ่มมีหวังแล้วหลังจากที่ทางด้าน นายสามารถ มะลูลีม ปัจจุบันนี้กำลังดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาคณะทำงานด้านการเมือง ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชวน หลีกภัย ได้ออกมาเผยข้อมูลไว้อย่างน่าสนใจถือว่าเป็นความหวังของวงการมวยอย่างแท้จริง กับการที่เจ้าตัวนั้นได้เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม รวมไปถึงวงการกีฬา ผลกระทบดังกล่าวนั้นส่งผลเป็นวงกว้างเป็นอย่างมาก

และสำคัญที่สุดโดยเฉพาะกีฬามวยไทย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามวยไทยนั้นถือว่าเป็นศิลปะประจำชาติไทยมาแต่โบราณ แต่อย่างไรก็ตามจากผลกระทบดังกล่าวนั้นมันทำให้ สนามแข่งขันชกมวยไทยถูกสั่งปิดตามคำสั่งของ ศบค. ทำให้นักมวยไทยทั่วประเทศ รวมถึง เทรนเนอร์ เจ้าหน้าที่สนามมวย ค่ายมวยต่างๆ และกลุ่มผู้ที่ค้าขายอยู่หน้าสนามมวย หลายหมื่นคน ต่างได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากขาดรายได้มาเลี้ยงชีพ และครอบครัว

  อย่างไรก็ตามในการดำรงตำแหน่งดังกล่าวนั้น ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และในฐานะเป็นปรึกษาด้านกีฬามวยของ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการท่องเที่ยวและกีฬา สภาผู้แทนราษฎร, อดีตประธานสหพันธ์มวยไทยอาชีพโลก และประธานที่ปรึกษาค่ายมวยลูกคลองตัน ทางด้าน “บังมาด” ได้มีการทำคู่มือมาตรการจัดแข่งขันมวยไทย ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) 

แบบที่ออกมานั้นมันเป็นรูปแบบที่เป็นคู่มือการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด สิ่งสำคัญที่สุดก็หวังว่ามันจะผ่าน เพื่อนำเสนอไปยัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เพื่อพิจารณา พร้อมทั้งทำหนังสือขอความอนุเคราะห์ให้กีฬามวยไทย กลับมาแข่งขันได้อีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นการช่วยเหลือบุคคลในวงการมวยไทยที่กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก

“ถึงอย่างไรก็ตามเรื่องราวทั้งหมดนั้นได้มีการ นำเอกสารสำคัญและข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับคู่มือจัดการแข่งขันมวยไทยไปยัง ศปก.ศบค. เป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่ง ผมได้ยื่นกับ ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล หลังจากนี้ ดร.รัชดา จะนำเสนอผ่านไปยัง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และประธาน ศบค. ชุดใหญ่ เพื่อให้พิจารณาในเบื้องต้น” นายสามารถ กล่าว

สำหรับคนที่สนใจและอยากรู้ว่า คู่มือมาตรการจัดชิงแชมป์มวยไทย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนใช้ได้กันหมด มีทั้งหมด 17 ข้อมีอะไรบ้าง และจะเป็นทางออกได้จริงหรือไม่ก็ควรลองไปอ่านดู โดยได้มีการรวบรวมสรุปไว้ ดังนี้  1.มีการจำกัดจำนวนผู้เข้าสนามมวยได้ไม่เกิน 50 คน โดยมีการเว้นระยะห่าง และการชกแต่ละคู่ จะจำกัดจำนวนผู้ที่อยู่ในสนามมวยไม่เกิน 20 คน, 2.นักมวย เทรนเนอร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน ต้องได้รับวัคซีนครบโด๊ส ตามจำนวนที่กำหนดไว้ พร้อมนำหลักฐานมาแสดงก่อนเข้าสู่พื้นที่

3.ว่าท่านจะเป็นใครมาจากไหน ถ้าหากมีความประสงค์ที่จะเข้ามาในสนามแข่งขันฯ ทั้งหมดทั้งมวลนั้นยังรวมไปถึง นับตั้งแต่นักมวย เทรนเนอร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน จะต้องตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยวิธีการ Antigen Test ที่มีผลเป็น “Negative” (ผลตรวจต้องภายใน 1 ชั่วโมงก่อนแข่งขัน), 4.นักมวย เทรนเนอร์ และเจ้าหน้าที่ ต้องทำประกันอุบัติเหตุ รวมทั้งประกันโควิด-19 ทุกคน, 5.นักกีฬาและเจ้าหน้าที่จะต้องรายงานบันทึกการเดินทาง (Timeline) ล่วงหน้าก่อนการแข่งขัน 14 วัน

6.สำคัญที่สุดเพื่อให้ทุกอย่างนั้นจัดการได้หากเกิดการระบาดขึ้นนั่นก็คือการที่ นักมวยทุกคนรวมถึงพี่เลี้ยงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องสแกน QR Code ลงทะเบียน “หมอชนะ” ก่อนเข้าสนามทุกครั้ง, 7.นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องสแกน QR Code “ไทยชนะ” เพื่อเช็กอิน, 8.ตรวจวัดอุณหภูมิ และพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่อุปกรณ์ทุกชิ้น โดยเฉพาะนวมที่ใช้สวมขึ้นชกบนเวที, 9.นักมวย เทรนเนอร์ และเจ้าหน้าที่ นั่งประจำที่ของตัวเองโดยเว้นระยะห่าง,

10.เรื่องของการวอร์มร่างกายนั้น ได้มีการคิดไว้แล้วว่าจะให้นักกีฬาทุกคนนั้น ใช้พื้นที่ที่จัดไว้ให้ โดยคำนึงถึงการเว้นระยะห่าง (Social Distancing) อย่างเคร่งครัด, 11.เมื่อแข่งขันเสร็จแล้วให้กลับบ้านหรือที่พักทันที .นักมวย เทรนเนอร์ และเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องสแกน QR Code “ไทยชนะ” เพื่อเช็กเอาต์ ก่อนออกจากสนาม,

13.เป็นอีกหนึ่งข้อสำคัญถึงแม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่งก็คือการให้ผู้ชมเข้าสนามโดยเด็ดขาด เพราะเพื่อความปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตามสำหรับแฟนมวยจะให้ชมการแข่งขันผ่านการถ่ายทอดสดเท่านั้น

14.ข้อสำคัญไม่ว่าจะเป็นนักมวยหรือว่าพี่เลี้ยงที่ดูแลนักมวย จะมีการจำกัดการเข้าถึงทั้งหมด โดยนักมวย 1 คน จะมีเจ้าหน้าที่ได้ไม่เกิน 2 คน กรณีที่มีนักมวยในสังกัดหลายคน นายสนามมวยจะเป็นผู้พิจารณาอนุมัติ, 15.นักมวยและเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการหลัก 5 ข้อ ของ ศบค. อย่างเคร่งครัด คือ สวมหน้ากากอนามัย, ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์, เว้นระยะห่าง, หลีกเลี่ยงการสัมผัส และจำกัดจำนวนคน

16.สำหรับนักกีฬาและพี่เลี้ยงและผู้ที่เกี่ยวข้อง หากอยู่ในสนามสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งนั่นก็คือทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครจะต้อง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพราะถือเป็นความผิดกรณีไม่สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่นอกเคหสถานหรือสถานที่พำนัก หรือพื้นที่สาธารณะ ยกเว้นขณะแข่งขันและอบอุ่นร่างกาย,

17.ถ้าไม่ทำตามตามกฎที่วางไว้ หรือว่าสร้างปัญหา บทลงโทษในการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการ จะพิจารณาลงโทษไม่ให้ขึ้นชก และให้กลับบ้านทันที

ติดตามข่าวสารทุกวงการมวยได้ที่ muaytoday.com

แทงมวยออนไลน์ ราคาน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย