LINE : @mtdfc
ต้นแบบที่ต้องศึกษา “รถถัง” ค่าตัวพุ่งกระฉูด ชีวิตพลิกผันเพราะ ONE เด็กหนุ่มผู้ใช้หมัดฝ่าความขาดแคลน ผ่านสังเวียนมากยิ่งกว่า 300 ไฟต์ ชีวิตของเขาเปลี่ยนสุดๆเมื่อคว้านาทีทองเข้ามาต่อยใน ONE จนกระทั่งตอนนี้ “รถถัง” เปลี่ยนเป็นซูเปอร์สตาร์ที่มีรายได้แล้วก็ค่าจ้างมากมายสุดคนหนึ่งในไทย
ในวันที่ชีวิตผู้คนจำต้องดิ้นรนขวนขวาย เพื่อหลุดพ้นจากความยากแค้น สิ่งที่มนุษย์ล้วนอยากได้เป็น จังหวะที่กำลังจะได้แสดงสมรรถนะ แล้วก็ปล่อยพลังในตนเองออกมาให้ผู้คนมองเห็นถึงคุณประโยชน์ที่จริงจริงของพวกเรา
“รถถัง ” เป็นคนๆหนึ่งที่ไล่ล่าโอกาสนี้มาตลอดทั้งชีวิต เนื่องจากว่าเขามีเป้าหมายที่ต้องการทำให้ครอบครัวสบาย ไม่ต้องฝืดเคืองอีกต่อไป จนกระทั่งฝันของแชมป์โลกชาวจังหวัดพัทลุงมาเป็นจริง เมื่อได้ช่องเข้ามาโชว์ความสามารถในรายการ “วัน แชมเปียนชิพ”
อย่างที่คนไม่ใช่น้อยรู้ ONE ริเริ่มตั้งขึ้นมา 11 ปี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีนักสู้จากทั่วทั้งโลกที่เคยผ่านสังเวียนที่นี้จำนวนมาก แต่มีเพียงแต่ไม่กี่คนเพียงแค่นั้นที่จะเปลี่ยนมาเป็น “ซูเปอร์สตาร์” เหมือนกับ รถถัง “ดิ ไอรอนแมน” ต้นแบบที่ต้องศึกษา เป็นแบบอย่างชั้นหนึ่งของคนทำฝันให้เป็นจริง เนื่องจากเมื่อเวลานั้นมาถึง เขาสามารถคว้ามันได้อยู่หมัด ตั้งแต่แมื่อเปิดตัวไฟต์แรก ในปีถัดไป (พุทธศักราช2566) “รถถัง” มีสิทธิ์คว้าค่าตอบแทนรวมโบนัส สูงสุดสัมผัสหลัก 6 ล้านบาท ตามการเปิดเผยจาก “ชาตรี ลูกศิษย์ยอดธง” ผู้จัดตั้ง ประธาน และก็ซีอีโอ “วัน แชมเปียนชิพ” ป้ายประกาศอัปค่าตอบแทนให้แชมป์โลกคนประเทศไทยทุกคน
รถถัง มีทางชีวิตบนสังเวียนที่ไม่ได้มีความแตกต่างกับนักมวยไทยทั่วๆไป โน่นเป็น ต่อยตั้งแต่อายุยังน้อย ไต่เต้าจากค่าจ้างหลักร้อยมาสู่หลักหมื่นรวมทั้งแสนต้นๆจนกระทั่งมาเตะหลักล้านในตอนนี้ การเก็บเกี่ยวประสบการณ์สัญจรต่อยมวยตามเวทีต่างๆทำให้ “รถถัง” แล้วก็ “นักมวยคนประเทศไทย” เห็นแก่ได้เปรียบเทียบคนต่างประเทศหมายถึงปริมาณนัดหมายที่ต่อยเยอะแยะกว่า นำมาซึ่งการทำให้ “รถถัง” มีความเก๋าเกมชำนาญ ทราบดีว่าคู่ต่อยเป็นยังไง เพราะเหตุว่าผ่านสังเวียนมาโชกโชน
“รถถัง” มักให้สัมภาษณ์ว่า บางจังหวะที่เปิดหน้าหรือลดการ์ดให้คู่ต่อยมาจู่โจม เป็นเนื่องจากเจ้าตัวมีประสบการณ์บนเวทีมาก พบคู่แข่งมาทุกแบบอย่างแล้ว เขาก็เลยรับทราบก้าวหน้าถึงน้ำหนักหมัดคู่ปรปักษ์ว่าแต่ว่าละคนออกมาเพียงใด เกิดอันตรายหรือเปล่าอันตราย
สิ่งพวกนี้ล้วนสร้างความแปลกใจแก่ผู้ชม และก็ทำให้ “รถถัง” เปลี่ยนเป็นนักสู้ที่มีสไตล์น่าเร้าใจมากมายๆจากช็อตที่เจ้าตัวเอาหมัดตีคาง หรือเปิดหน้าให้คู่ต่อสู้มาต่อยกลับไม่หล่นเป็นความแข็งแกร่งน่าไม่น่าเชื่อของ “รถถัง” ที่ทำให้เขามีคนรักคลับรวมทั้งคนติดตามมากมายก่ายกองจากทั่วทั้งโลก
อย่างที่เขียนไปข้างต้น นักมวยไทยบ้านพวกเราโดยธรรมดา หากแม้ผ่านปริมาณไฟต์มาเยอะแยะเกือบจะไม่ได้แตกต่างกับ “รถถัง” แต่ว่าก็ไม่ใช่ทุกคนที่เมื่อสบโอกาสแบบแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต คนตอนนี้ จะรักษามันไว้ได้ เนื่องจากนักกีฬาบางบุคคล มิได้มีความสามารถ หรือวิวัฒนาการที่ดีเลิศพอเพียงกระทั่งไม่สามารถที่จะยืนระยะและก็หรือต่อยอดไปสู่จุดสุดยอดแบบ “รถถัง” ได้
เหตุที่เป็นแบบนั้น ส่วนใดส่วนหนึ่งอาจมาจากที่นักมวยไทยบางบุคคล ยังยึดติดกับกรรมวิธีต่อยแบบมวยไทย 5 ชูบ้านพวกเรา กระทั่งปรับพฤติกรรมมิได้กับกฏ ข้อตกลง ต้นแบบการให้แต้ม เมื่อออกไปโกอินเตอร์ แตกต่างจาก “รถถัง” ที่มีสไตล์บู๊เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แถมยังขยันออกอาวุธ มีหัวจิตใจนักสู้ ไม่กลัวอะไรบนเวที แล้วก็มีสภาพร่างกายที่หนักแน่น ซึ่งมาจากการทำงานหนักในตอนฝึก จนกระทั่งออกมาเป็น “ดิ ไอรอนแมน” ที่อึด ถึก ทน เข้มแข็งดุจเหล็ก ไม่ว่าจะปะทะกับไม่ว่าใครก็ตาม
ถ้าหาก “รถถัง” ไม่ฝึกซ้อมหนัก แม้กระทั่งเขาจะกล้าหาญขนาดไหน เขาก็บางทีอาจตกได้แม้โดนหมัดจากนวมสี่ออนซ์ แม้กระนั้นการที่เขายืนทนได้ โน่นแสดงว่าเขาฝึกซ้อมจัดแจงมาดีมากพอ อย่างที่ “รถถัง” เคยสัมภาษณ์ว่า ไม่ว่าจะไฟต์ชิงชนะเลิศหรือแมตช์ปกติ เขาสุดกำลังกับมันเสมอ บากบั่นต่อยให้สุดกำลังที่สุด
แฟนมวยก็เลยคุ้นตากับภาพที่ “ดิ ไอรอนแมน” ขยับเดิน บุกตะลุย ไม่ว่าจะเหตุการณ์มองเป็นต่อขนาดไหน ? เขาก็ไม่มีกั๊กอาวุธ หรือถอยมาคุมรูปมวยปกป้องสิ่งเดียวเพื่อรอคอยเสียงระฆังดัง เว้นเสียแต่ผลงานที่เด่นชนะรวดทุกไฟต์ใน ONE อีกทั้งในแบบอย่างมวยไทยแล้วก็คิกบอกซิ่ง (รวม 12 ไฟต์) ที่ทำให้ชื่อของ “รถถัง จิตรเมืองความรื่นเริง” เลื่องลือในระดับนานาชาติ
อีกส่วนใดส่วนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเป็น ความเป็นรถถัง ที่เขาแสดงออกบนเวทีนั้นตรงกับคุณประโยชน์ของ “วัน แชมเปียนชิพ” ที่อยากได้นำเรื่องราวของนักกีฬาที่เป็น “วีรบุรุษ ” ผู้มีความซื่อสัตย์, ความสุภาพเรียบร้อย, ให้เกียรติ, ความเคารพนับถือ, ความกล้า, ระเบียบวินัย แล้วก็ มีเมตตา เพื่อสร้างแรงจูงใจแก่คนทั่วทั้งโลก แม้คุณติดตามไฟต์การต่อยของ “ดิ ไอรอนแมน” คุณจะพบว่าเขาเอนเตอร์เทนผู้ชมตั้งแต่เดินเปิดตัว ด้วยท่าเต้นสนุก เพียรพยายามส่งสายตาแล้วก็จับมือกับผู้ชม เพื่อสร้างประสบการณ์การมีส่วนร่วมกัน
เมื่อถึงขณะต่อย เขามักโชว์อีกทั้งความป่าเถื่อนดุเดือด, ความสนุกจากสไตล์การต่อยที่มองไม่มีเบื่อ รวมทั้งความฮาในบางจังหวะ ครบถ้วนบริบูรณ์ในตัวผู้เดียว “รถถัง” แสดงออกถึงอารมณ์ร่วมในเกมที่สูงๆมากมาย ทำให้เกมการต่อยมองละลานตา ตื่นดวงใจ มีเสน่ห์
แต่ว่าเมื่อเกมจบลงสิ่งที่ “แชมป์โลกคนไทย” เอาชนะจิตใจคนทั้งโลกหมายถึงการที่เขามักแสดงความนับถือด้วยการก้มลขี้ตระหนี่ราบคู่ปรปักษ์, ยกนิ้วให้ชื่นชอบในความรู้ความเข้าใจของคู่ปรปักษ์ ตลอดจนการเข้าไปเช็กมองอาการหรือถือผ้ามาดูดซับเลือดให้ ไม่ใช่การดูถูกยามหรือตอกย้ำซ้ำเติมผู้แพ้ สิ่งที่เกิดขึ้นข้างหลังเกมที่ “รถถัง” โชว์ออกมามิได้อยู่ในกฏ ข้อตกลง แม้กระนั้นมาจากภายในตัวตนลึกๆของ “รถถัง” ที่ปรารถนาแสดงความเคารพนับถือต่อคู่ต่อยทุกคนของเขา
โดยเหตุนี้เมื่อผู้ชมมอง “รถถัง จิตรเมืองความรื่นเริง” ก็จะสัมผัสแล้วก็รู้สึกได้ว่า เขาเป็นวีรบุรุษที่มีชีวิต มีเลือดเนื้อ มีความเป็นคนที่ดีจังๆผ่านสิ่งที่เขาแสดงออกบนเวทีตั้งแต่ก่อนเริ่มเกม จนกระทั่งข้างหลังม่านปิดลง
รถถัง ก็เลยถือเป็นเยี่ยงอย่างที่นักมวยบ้านพวกเราควรศึกษาค้นคว้า ด้วยเหตุว่าการจะเข้าไปนั่งอยู่ในใจมหาชน ลำพังเพียงแค่หวังต่อยเอาผลที่ได้รับจากการแข่งขันชนะสิ่งเดียวอาจไม่พอ แต่ว่าต้องที่ส่วนอื่นเสริมเติมด้วย ทั้งยังความเป็น นักเอ็นเตอร์เทนเนอร์ที่ต่อยสนุกสนาน ไม่ประหยุดอาวุธ ไม่เอาเปรียบเทียบผู้ชม สุดกำลังทุกชู รวมทั้งควรเป็นสุภาพบุรุษเมื่อสิ้นเสียงระฆังด้วย
กำลังสร้างนิยามใหม่ แล้วก็เปลี่ยนเป็นไอคอนของมวยไทยในปัจจุบันนี้ ผ่านการบรรลุเป้าหมายสำหรับในการต่อยที่ “วัน แชมเปียนชิพ” ซึ่งเป็นสังเวียนที่ปรารถนาสร้างวีรบุรุษที่มีคุณค่าบนโลกความจริง “รถถัง” อาจมีดีกรีเป็นแชมป์ระดับประเทศมาแล้ว จากสนามมวยประเทศไทยอ้อมน้อย แม้กระนั้นการถือสิทธิ์สายรัดเอวแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต เป็นบทพิสูจน์อย่างแท้จริงว่าเขาเป็นนักต่อยสุดยอดที่บรรลุเป้าหมายในระดับสากล
เพราะเหตุว่าหน่วยงาน ONE คัดสรรแม้กระนั้นนักกีฬาที่ดีสุดจากทั่วทั้งโลก ซึ่งในพิกัด 135 ปอนด์ มวยไทย เต็มไปด้วยนักสู้ชำนาญจากทั่วทั้งโลก มารวมตัวกันอยู่ในหน่วยงานยักษ์ใหญ่อย่าง “วัน แชมเปียนชิพ” ที่จัดแจงแข่งมาตรฐานสุดยอด รวมทั้งมีตัดสินเป็นธรรม ขวานผ่าซาก แล้วก็ดำเนินงานจัดกีฬาให้เป็นกีฬาจริงๆไม่ได้การของการเดิมพันมาเกี่ยวเนื่อง
ไม่เพียงเท่านั้นชีวิตแล้วก็ฐานะชีวิตความเป็นอยู่ของ “รถถัง” ก็แปรไปตั้งแต่แมื่อเข้ามาอยู่ใน ONE เนื่องจากว่าตรงนี้จ่ายค่าตอบแทนนักกีฬาอย่างมาก ตามผลงานรวมทั้งประสิทธิภาพ
ย้อนกลับไป 4-5 ปีกลาย “รถถัง จิตรเมืองนันท์” ต่อยไฟต์แรกกับ ONE ขณะนั้น ค่าตอบแทนเรตแรกที่เขาได้รับนั้นเป็นตัวเลขหลักแสน ที่สูงสุดในชีวิตของเขาแล้ว แม้กระนั้นเมื่อ “ดิ ไอรอนแมน” ต่อยทำผลงานก้าวหน้า และก็เป็นวีรบุรุษที่ชนะใจผู้ชมของ “วัน แชมเปียนชิพ”
สิ่งที่หน่วยงานทำเป็น การปรับค่าตอบแทนเพื่อ “รถถัง” มากขึ้นมาตลอด รวมทั้งนักกีฬาวีรบุรุษคนอื่นให้มีรายได้สูงมากขึ้นตามความรู้ความเข้าใจ ซึ่งในปีถัดไปตามการเปิดเผยของ ชาตรี ลูกศิษย์ยอดธง “แชมป์โลกคนประเทศไทย” จะมีค่าแบบอย่างน้อย 4 ล้านบาท และก็ได้โอกาสมากขึ้นถึง 6 ล้านบาทถ้าหากปราบโบนัสได้ จากการต่อยเพียงไฟต์เดียว ด้วยเหตุนั้น “รถถัง” ยังได้โอกาสที่โกยรายได้อีกเยอะแยะเป็นอย่างมาก ถึงจุดนี้อาจจะสามารถกล่าวได้แล้วว่า “รถถัง จิตรเมืองความยินดี” เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นต้นแบบให้ นักต่อยรุ่นน้องได้เล่าเรียน
เพราะเหตุว่าถ้าเกิดมองดูย้อนกลับไป “รถถัง” ในวันแรกที่เปิดตัวใน ONE ในช่วงเวลานั้นเขายังไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์ดังก้องกังวาลโลกแบบเวลานี้ แต่ว่า “รถถัง” ก็เป็นนักสู้คนหนึ่งที่หิวต้องการพิสูจน์ตนเอง รวมทั้งพากเพียรทุ่มเทกับช่องทางที่ได้รับอย่างเต็มเปี่ยม จนกระทั่งถัดมาเขาต่อยอดมาถึงจุดที่ได้เป็นนักกีฬาที่บรรลุเป้าหมาย เป็นที่รู้จัก รายได้ก้อนโตเข้ามา
ยิ่งในปีถัดไป “วัน แชมเปียนชิพ” จะมีการขยายโอกาสได้ไปยังให้นักต่อยดาวรุ่ง รวมทั้งหมัดรากต้นหญ้าในไทย ให้ได้มีเวทีแสดงอีกทั้ง ONE ลุมพินี แล้วก็ Road To ONE Thailand ทุกคนที่ได้โอกาส ขอให้ควรเพียรพยายามรักษาช่องทางนั้นให้ดี ตั้งใจจริงตั้งมั่น รวมทั้งปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเต็มเปี่ยม เพื่อแสดงพลังของคุณออกมาให้ทุกคนได้มองเห็น เพราะว่าไม่แน่คุณอาจคว้าจังหวะเปลี่ยนแปลงชีวิตจาก ONE ได้แบบที่ “รถถัง จิตรเมืองนันท์” เคยทำสำเร็จมาและเป็นไปได้
ติดตามข่าวสารทุกวงการมวยได้ที่ muaytoday.com
แทงมวยออนไลน์ ราคาน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย
