muaytoday LINE : @mtdfc
muaytoday
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2024 12:38 AM
muaytoday
muaytoday
หน้าหลัก » ข่าวมวย » กุหลาบดำ ประวัติเรื่องจริงยอดมวย ค่าตัวเรือนแสนแต่ขอใช้ชีวิตรวยเงียบ

กุหลาบดำ ประวัติเรื่องจริงยอดมวย ค่าตัวเรือนแสนแต่ขอใช้ชีวิตรวยเงียบ

อัพเดทวันที่ 31 พฤษภาคม 2021 เข้าดู 58 ครั้ง

กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย “ซ้ายอุกกาบาต” ปัจจุบันนี้ทุกคนยอมรับเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในนักมวยแม่เหล็กแห่งยุค ผู้เป็นเจ้าของหมัดซ้ายทรงพลังอันขึ้นชื่อไปทั่วประเทศ เคยกดคู่ชกหลับกลางอากาศมานับครั้งไม่ถ้วน และกำลังจะเปิดศึกสายเลือดกับ “ซ้ายฟ้าผ่า” เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์” ในศึก ONE: FULL BLAST

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าไฟท์ล่าสุดที่ผ่านมา จะโดน เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์ ปิดฉาก ไวกว่า 5G ด้วยหมัดอัดเข้าลำตัวใน ศึก ONE: FULL BLAST ซึ่งออกอากาศเทปการแข่งขันเมื่อวันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยยกแรก กุหลาบดำ เป็นฝ่ายเดินเข้าหาส่งลูกถีบทักทาย ฝ่าย เสมาเพชร ยังนิ่ง ทั้งคู่ระวังตัวไม่บุ่มบ่าม จนกรรมการต้องเตือนให้เร่งเครื่อง เสมาเพชร ซึ่งจ้องรอจังหวะ ส่งหมัดซ้ายฟ้าผ่าเข้าลำตัว กุหลาบดำ ถึงกับจุกลงฟุบกับพื้นชนิดไวผิดคาด เสมาเพชร ย้ำความแกร่งผงาดบนแรงกิงอันดับ 1 รุ่นแบนตั้มเวต มวยไทย ของ วัน แชมเปี้ยนชิพ ชนิดที่เก้าอี้ไม่มีสะเทือน

อย่างไรก็ตามเกมกีฬานั้นมีแพ้มีชนะแต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนไม่รู้เกี่ยวกับ กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย เจ้าตัวนั้นเป็นอีกหนึ่งนักชกที่สู้ชีวิตเป็นอย่างมาก กุหลาบดำเป็นลูกชาวนา พ่อชื่อจำเริญ แม่ชื่อนางเหียด มีสิทธิ์ดี บ้านเกิดอยู่ที่ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เขามีชื่อเล่นว่า “เขียว” เป็นลูกคนโตในบรรดาพี่น้อง 5 คน พ่อแม่ตั้งชื่อจริงให้ว่า นายสมบูรณ์ น้องชายคลานตามกันมาชื่อ นายอุดมศักดิ์ (รายนี้เป็นนักมวยชื่อ ไทย สจ.เปี๊ยกอุทัย) และ 3 คนหลังเป็นหญิงล้วน

กุหลาบดำ
ภาพจำของเขาตั้งแต่วัยเด็กคือการเห็นพ่อแม่ทำนา เลี้ยงวัว เป็นอาชีพสุจริตที่หล่อเลี้ยงชีวิตเขาและน้อง ๆ จนเติบโต แม้เป็นอาชีพที่ต้องรอพึ่งฟ้าพึ่งฝน บางปีผลผลิตอาจไม่พอประทังชีวิต แต่ กุหลาบดำก็ไม่คิดที่จะเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่น เขาสู้เก็บหอมรอมริบจากการชกมวย มีเงินเป็นหลักล้าน แล้วกลับไปสานต่ออาชีพเกษตรกรรมตามที่ครอบครัวถนัด

กุหลาบดำชื่นชอบมวยมาตั้งแต่เด็ก เขาเริ่มรู้จักมวยไทยในงานวัดแถวบ้าน พอเห็นเด็กในหมู่บ้านชกมวยบนเวที ก็กลับมาพิรี้พิไรขอพ่อชกมวยบ้างแต่พ่อไม่ยอม เพราะกลัวลูกเจ็บ แต่ด้วยความดื้อรั้นสุดท้ายพ่อก็ใจอ่อน ยอมให้ไปฝึกที่ค่ายมวยเล็ก ๆ มีเด็กอยู่ 2-3 คน และกระสอบ 2-3 ใบห้อยกับต้นไม้ ไม่มีแม้แต่เวทีมวย

แม้สถานที่ไม่เอื้ออำนวยแต่ กุหลาบดำในวัย 8 ขวบก็ได้ขึ้นชกครั้งแรกสมใจหลังจากซ้อมได้เดือนเดียว พ่อเห็นแววน่าจะรุ่งจึงทำค่ายมวยเล็ก ๆ ให้ในชื่อ “ส.กัลยาณี” และด้วยมีชื่อเล่นว่า “เขียว” จึงได้ชื่อชกมวยในสมัยแรก ๆ ว่า “เขียวมรกต ส.กัลยาณี”

เดินสายสั่งสมกระดูกมวยที่เมืองหมอแคนแดนอีสานจนมีรายได้จากการชกมวยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่หลังจากเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น กำลังหัวเลี้ยวหัวต่อ ใจก็จดจ่อกับชีวิตวัยหนุ่มจนทำให้เขาเริ่มไขว้เขว ห่างเวทีไปนาน ก่อนจะกลับมาชกมวยอีกครั้งก็ราวอายุ 15-16 ปี

กุหลาบดำตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ตามคำชักชวนของเพื่อนพ่อที่เป็นเทรนเนอร์อยู่ในค่ายของอดีตฮีโร่โอลิมปิกอย่าง “สมรักษ์ คำสิงห์” กุหลาบดำได้มาเรียนมวยกับ สมรักษ์ จนเก่งกล้าขึ้น แต่ทว่าเด็กหนุ่มที่เกิดและเติบโตในท้องไร่ท้องนา พอเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ก็อัดอัดและปรับตัวได้ยาก หลังสั่งสมวิชากับ สมรักษ์ ได้ราว 6 เดือน ก็ตัดสินใจอำลาอาจารย์ และหันหลังให้แดนศิวิไลซ์กลับไปอยู่สุรินทร์บ้านเกิดเหมือนเดิม

สมรักษ์ ฝากฝัง กุหลาบดำให้ไปอยู่กับค่าย สจ.เปี๊ยกอุทัย ในราว 2557 ซึ่งที่นี่เขาได้ชื่อใหม่ว่า กุหลาบดำและได้ อาจารย์สมพร แก้วกัณหา อดีตนักมวยฝีมือดีจากจังหวัดนครสวรรค์ มาเป็นเทรนเนอร์ ซึ่งทั้งคู่ก็เหมือนต้องชะตา จึงจับเป้าซ้อมด้วยกันมาจนถึงปัจจุบัน

ช่วงปี 2559-2560 เป็นปีที่ กุหลาบดำประสบความสำเร็จอย่างมาก จากสถิติที่ไม่เคยแพ้ใคร 7 ไฟต์ติดต่อกันที่สนามมวยเวทีช่อง 7 สี จนได้เสื้อสามารถ และโด่งดังถึงขีดสุด หลังจากนั้น กุหลาบดำได้ครองแชมป์สนามมวยเวทีลุมพินี และ แชมป์ประเทศไทย จากที่เคยเป็นนักมวยแถวหลังจึงขยับขึ้นมาอยู่แถวหน้า สร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้กับค่าย พร้อมกับได้เซ็นสัญญาเป็นนักกีฬา วัน แชมเปียนชิพ และประเดิมสนามเมื่อเดือนกันยายน 2562

หลังจากผ่านศึกระดับโลกไปเพียงไฟต์เดียว กุหลาบดำก็ได้เข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต ชิงเดือดรอบแรกกับยอดมวยแถวหน้าหาตัวจับยากอย่าง “แสงมณี คลองสวนพลูรีสอร์ต” ทำให้ใคร ๆ มองว่า กุหลาบดำเป็นมวยรอง มองทางไหนก็ไม่อาจชนะ แสงมณี ได้แต่สุดท้ายเขาใช้หมัดชัตดาวน์มวยเอกประเทศไทยหงายหลังผึ่งก่อนหมดยกแรกไปอย่างช็อกโลก ลบทำสบประมาทอย่างสิ้นซาก

ปัจจุบัน กุหลาบดำในวัย 22 ปี มีฟาร์มไก่ ฟาร์มวัว เป็นของตัวเองที่บ้านเกิดจังหวัดสุรินทร์ อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากับภรรยาและลูก “น้องใหม่” วนิดา เข็มเพชร และ “น้องแชมป์” ที่กำลังอยู่ในวัยน่ารักน่าชัง ใช้ชีวิตติดดินที่บ้านเกิดสมใจ เตรียมตัวเป็นเสี่ยในอนาคต

ติดตามข่าวสารทุกวงการมวยได้ที่ muaytoday.com

แทงมวยออนไลน์ ราคาน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย

ข่าวมวย ล่าสุด