ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี บทวิเคราะห์ของรุ่นพี่ พลาดเหรียญทองเพราะเหตุใด

ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี เรียกได้ว่าเป็นข่าวที่ทำเอาแฟนมวยชาวไทยถึงจะไม่เสียใจมาก แต่ก็น่าเสียดายไม่น้อยสำหรับ กำปั้นไทยจอมเก๋า 36 ปี ดีกรีแชมป์เอเชียปี 2015 และเจ้าของ 4 เหรียญทองซีเกมส์ ปิดฉากโอลิมปิกสมัยที่ 3 ด้วย กับขานี้เขานั้นต้องพ่ายแพ้ให้กับ ลาซาโร อัลวาเรซ ยอดกำปั้นชาวคิวบาวัย 30 ปี ด้วยสกอร์ 2-3 เสียง ในการแข่งขันมวยสากล รุ่นเฟเธอร์เวท 57 กก. รอบก่อนรองชนะเลิศ หรือรอบ 8 คนสุดท้าย กีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ที่สังเวียนโกกุกิคุง อารีน่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมนั้น

โดย ฉัตรชัย​เด​ชา​ ก็เปิดใจหลังพ่ายแพ้ว่า​ ไม่เสียใจเลยกับโอลิมปิกเกมส์หนนี้ อย่างไรก็ตามทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนั้นมันทำให้รู้ว่าเราได้ทำเต็มที่แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดในการแพ้ในครั้งนี้นั่นก็คือว่า อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าประสบการณ์นั้นพอๆกัน และเขาเหนือกว่าชัดเจนเพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า นักชกคิวบาก็คือคิวบานักมวยไทยและทั่วโลกเป็นที่ทราบกันดีว่านักชกพวกนี้นั้นมีความรวดเร็วมาก

ต้องยอมรับว่าถึงแม้ว่าจะไม่ได้เหรียญทองแต่ก็ภูมิใจมากที่ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีที่สุดแล้วและขอขอบคุณคนไทยมาเชียร์ และมีความสุขในรอบหลายปีที่ผ่านมา ที่ขาดไม่ได้คือขอบคุณครอบครัวลูกและภรรยาที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอดในยามที่มีทุกข์และสุขรวมถึงคนไทยทุกคนที่ตามเชียร์ให้กำลังใจทุกครั้งเวลาที่ขึ้นชก อย่างไรก็ตามยังทิ้งท้ายด้วย การที่เข้าแข่งขันโอลิมปิกในครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายของตนเพราะอายุมากแล้ว แต่เสียดายที่ไปไม่ถึงฝัน”

อย่างไรก็ตามล่าสุดนี้จากมุมมองของ แก้ว พงษ์ประยูร ล่าสุดนี้ก็ได้ออกมาชื่นชม “ฉัตร์ชัยเดชา” ชี้การตัดสินโอเค มาพลาดโดนช่วงท้าย ขยันออกหมัดแต่เข้าเป้าน้อยกว่า พอดีว่า ฉัตร์ชัยเดชาบุตรดี กำปั้นวัย 36 ปี แลกหมัดกับ ลาซาโร อัลวาเรซ จากคิวบา อย่างสูสีก่อนที่ครบ 3 ยกจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปด้วยคะแนนไม่เป็นเอกฉันท์ 2-3 เสียง

หลังการชก แก้ว พงษ์ประยูร เจ้าของเหรียญเงิน โอลิมปิกเกมส์ 2012 ได้ออกมาเปิดใจและเสียดายมาก และยกสุดท้าย ฉัตร์ชัยเดชา มีโอกาสชนะด้วยซ้ำ “สูสีมากครับ เสียดายมากเลย สองยกแรกเราต่อยได้ดีเลย เริ่มยกสามก็ยังดูดีกว่า แต่มาพลาดโดนเป็นชุดในช่วง 40-50 วินาทีก่อนหมดเวลา ถ้าไม่โดนชุดนั้นผมว่าฉัตร์ชัยเดชาน่าจะเป็นผู้ชนะ “ส่วนเรื่องกรรมการผมว่าโอเคนะ มันสูสีจริง ๆ เราขยันออกหมัดมากกว่า

แต่ถ้าดูจริง ๆ และถ้าสังเกตมากๆจะเห็นได้ว่าหมัดที่เจ้าแหลมส่งเข้าไปนั้นส่วนมาก ฉัตร์ชัยเดชา จะติดบล็อก ส่วนคิวบาเห็นได้ว่ามีความเก่ามาก สาเหตุก็เพราะว่ามองดูแล้วเขานั้นออกหมัดน้อยแต่เข้าเป้ามากกว่า โดยเฉพาะหมัดซ้าย ยิ่งดูภาพช้ายิ่งเห็นชัดเลย แต่ต้องบอกว่าเสียดายมากจริง ๆ น้องทำได้ดีมากแล้ว อีกนิดเดียวเอง”“ฝากถึงน้องว่ากีฬามีแพ้มีชนะ เราทำเต็มที่แล้ว คนไทยทั้งประเทศได้เห็นแล้ว อย่าเพิ่งท้อ ถ้ายังมีไฟอยู่ลองไปชกมวยอาชีพดูอีกสักหน่อยก็ยังได้ หรือมาเป็นโค้ชให้กับทีมชาติไทยดู ทางสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย พร้อมต้อนรับอยู่แล้ว”

หากย้อนกลับไปเส้นทางของ ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ชีวิตของเขานั้นชกมวยสากลมาตั้งแต่ปี 2548 และรับใช้ทีมชาติมาไทยมาอย่างยาวนากว่า 15 ปี โดยทำผลงานคว้าเหรียญทองซีเกมส์ 4 สมัย เมื่อปี 2009, 2013, 2017, 2019