ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ความหวังสำคัญ เหรียญทองโอลิมปิกที่รอคอยมา 13 ปี

ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนักชกที่น่าจับตามองมากที่สุดในตอนนี้ หลังจากที่ล่าสุดทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ลงสังเวียนในรอบ 16 คนสุดท้าย ของศึกมวยสากลโอลิมปิก 2020 ในรุ่น 57 กิโลกรัมชาย พบกับ มีร์โก เฮอิเอล กูเอโย่ จากอาร์เจนตินา ต่อยชนะนักมวยอาร์เจนตินา 4-1 เสียง โดยการชกนายกแรกนั้น ทั้งสองคนแลกหมัดใส่กัน แต่เป็นฉัตร์ชัยเดชา ที่ออกอาวุธแม่นยำกว่า

หมดยกแรก กรรมการทั้ง 5 คนให้ฉัตร์ชัยเดชา ชนะ 10-9 ทั้งหมด ยกที่สอง กูเอโย เดินเกมมากขึ้น แต่ยังโดนจังหวะฉัตร์ชัยเดชา ดักต่อยได้จะแจ้งขึ้น หมดยกที่สอง กรรมการให้ฉัตรชัย ชนะ 4-1 เสียง ยกสุดท้าย ฉัตร์ชัยเดชา อาศัยการประคองตัว ขณะที่นักชกจากอาร์เจนตินาเดินหน้าบุกหนัก และต่อยเข้าเป้าหลายครั้ง

อย่างไรก็ตามหลังจากดวลกันจนครบ 3 ยก ซึ่งผลงานเป็นที่ทราบกันดีว่ามันเป็นฝ่ายเข้าตาโดยเต็ม กรรมการผายมือให้ฉัตร์ชัยเดชา ชนะแบบไม่เอกฉันท์ 4-1 เสียง คะแนน 29-28, 29-28, 28-29, 29-28 และ 29-28 ทำให้ฉัตร์ชัยเดชา

ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นเหรียญ สำหรับรอบ 8 คนสุดท้าย ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี จะเข้ารอบไปพบกับ ลาซาโร อัลวาเรซ มือวางอันดับ 3 ของรายการจากคิวบา ที่ชนะน็อก นักชกจากอิหร่าน โดยในรอบต่อไปถ้าฉัตร์ชัยเดชา ชนะ จะได้เหรียญทองแดงเป็นอย่างน้อยทันที

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนักชกที่ปัจจุบันนี้ถูกจับตามองเป็นพิเศษสำหรับ ฉัตร์ชัยเดชา เพราะเรียกได้ว่านานหลายปีแล้วที่ประเทศไทยนั้นไม่ได้ขอแชมป์คว้าเหรียญโอลิมปิกเลยสักครั้ง หน่วยคนสุดท้ายที่ว่าได้นั่นก็คือ สมจิตร จงจอหอ คว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2008 ปักกิ่งเกมส์

อย่างไรก็ตามจากผลงานดังกล่าวนะทำให้หลายคนนั้นต่างก็ ไม่คิดว่ามวยสากลซึ่งคว้าเหรียญทองโอลิมปิกมาได้ 4 สมัยซ้อน ย้อนหลังจากนั้นก็ก้าวสู่ความตกต่ำอย่างแท้จริงเพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า หลังจาก สมจิตร จงจอหอ แล้วจะค่อยๆ ก้าวสู่ความตกต่ำในระยะเวลา 13 ปีหลังจากนั้น

และหลังจากนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่าในกีฬาโอลิมปิกอีก 2 ครั้งถัดมา ลอนดอน 2012 นักชกไทยได้เพียงเหรียญเงินจาก แก้ว พงษ์ประยูร รุ่นไลต์ฟลายเวต ที่แพ้ ซู ซิหมิง นักชกจีนไปแบบชนิดที่ทำเอาทั่วโลกยังถึงงงเพราะอย่างค้านสายตาเป็นเป็นอย่างมาก

และหลังจากนั้นเรียกว่าถึงขั้นจุดต่ำสุดของ วงการมวยไทยอย่างแท้จริงกับการที่ไม่มีเหรียญแม้แต่ครั้งเดียวใน รีโอเดจาเนโร 2016 นักชกชาย-หญิงของไทย ไม่ได้เหรียญอะไรเลย นับเป็นความถดถอยถึงขีดสุดของวงการกำปั้นไทย เนื่องจากนักชกไทยได้เหรียญโอลิมปิกทุกครั้งตั้งแต่ปี 1976

และก็มาถึงโอลิมปิก 2020 ที่ต้องมาแข่งขันในปี 2021 แฟนมวยในประเทศไทยมองหาเหรียญทองโอลิมปิกอีกครั้ง หลังไม่ได้สัมผัสบรรยากาศเหล่านั้นมาอย่างยาวนานแล้ว แต่ยังไงก็ตามในโตเกียวเกมส์ กีฬามวยสากลไม่ได้เป็นความหวังอันดับ 1 ของไทยเสียแล้ว เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่มันเป็นไปได้อย่างไรกับยุคที่ตกต่ำแบบนี้ แม้จะอยู่ในข่ายที่พอจะได้ลุ้นเหรียญรางวัลได้

แต่ก็อยู่บนความไม่แน่ใจว่ากำปั้นไทยแข็งแกร่งพอที่จะทวงเหรียญทองโอลิมปิกกลับมาหรือยัง อย่างไรก็ตามแต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนยังคงต้องรอคอยและดูจะมีความหวังมากที่สุดก็คงเป็น ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ในวัย 36 ปี อย่างไรก็ตามเป็นหนึ่งความหวังของคนไทยอย่างแท้จริง

เรียกได้ว่า ฉัตร์ชัยเดชา ถือว่าเป็นอีกหนึ่งนักชกที่ปัจจุบันนี้ถูกจับตามองด้วยความที่เขานั้นมีดีกรีระดับ เหรียญทองชิงแชมป์เอเชีย 2015, เก็บ 4 เหรียญทองซีเกมส์ (ครั้งที่ 25 ที่ลาว ปี 2009, ครั้งที่ 27 ที่เมียนมา ปี 2013, ครั้งที่ 29 ที่มาเลเซีย ปี 2017 และ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ ปี 2019), เหรียญเงินซีเกมส์ (ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย ปี 2011) และเหรียญทองแดงชิงแชมป์โลก 2013 ได้เข้าร่วมโอลิมปิกเป็นหนที่ 3 ในชีวิต และเป็นครั้งสุดท้ายในวัย 36 ปี สิ่งสำคัญที่สุดนั่นก็คือภารกิจที่สำคัญของเขา

ที่หนักอึ้งและดูเหมือนว่าต้องเป็นไปให้ได้นั่นก็คือการที่เรานั้นต้องเป็นเหมือนกับ สมจิตร จงจอหอ เมื่อ 13 ปีก่อน เพราะทั้งคู่นั้นมีเหมือนกัน หากจำกันได้ สมจิตรคว้าเหรียญทองมวยสากลในกีฬาโอลิมปิกด้วยอายุ 33 ปี 7 เดือน เหรียญทองปักกิ่งเกมส์ที่เติมเต็ม ทำให้เขากวาดครบทุกแชมป์ เป็นฮีโร่ของนักกีฬาไทย

ได้รับการประกาศจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ให้เป็นสุดยอดนักกีฬาไทยในรอบ 5 ทศวรรษ อย่างไรก็ตามคนไทยทุกคนก็ควรต้องเอาใจสู้เอาใจช่วย ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี อย่างไรก็ตาม 13 ปีที่รอคอย ถ้าได้เหรียญอื่นยังต้องถือเป็นความล้มเหลว สำหรับมวยสากลโอลิมปิก ต้องเหรียญทองเท่านั้น

ติดตามข่าวสารทุกวงการมวยได้ที่ muaytoday.com

แทงมวยออนไลน์ ราคาน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย