“เจ้าโอ๋” อดีตแชมป์โลก เจอเบี้ยวค่าตัวเครียดแถมโดนกักตัวอีก

ศิริมงคล อดีตแชมป์โลกวัย 43 ปี ต้องเผชิญวิบากกรรมไม่สิ้นสุด หลังได้รับการติดต่อให้คืนสังเวียนอีกครั้งในวัย 43 ปี ไปชกที่แทนซาเนีย เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทว่าหลังการชกตนเองกลับยังไม่ได้ค่าตัวตามสัญญา แถมยังเกือบตกเครื่องกลับเมืองไทยไม่ได้ และต้องควักทุนจากการเรี่ยไรซื้อตั๋วเครื่องบินใหม่ถึง 4 รอบ ล่าสุดเมื่อ 11 พ.ย.63 ศิริมงคลซึ่งเดินทางกลับถึงไทย จากความช่วยเหลือประสานงานของสถานเอกอัครราชทูตไทย ในกรุงไนโรบีประเทศเคนยา และส่งตัวกลัยมาเข้ารับการกักตัวให้ครบ 14 วัน ตามระเบียบเฝ้าระวังไวรัสของรัฐบาลไทย เจ้าตัวเปิดใจจากสถานที่กักตัวจังหวัดชลบุรีว่า จากการติดต่อล่าสุดกับทางแทนซาเนียโดย นางไอชา มารศรี หญิงไทยผู้มีครอบครัวอยู่ในแทนซาเนีย

และเป็นผู้ช่วยประสานงานจนเจ้าตัวได้กลับเมืองไทยแจ้งว่า ถึงขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อกับโปรโมเตอร์เชามาลี อายับ ผู้จัดแข่งขัน ซึ่งรับปากว่าจะจ่ายเงินค่าชกให้กับศิริมงคลตามสัญญา “ตอนนี้พยายามติดต่อและตามหาตัวของโปรโมเตอร์เชามาลีอยู่หลายครั้ง ดูเหมือนเขาจะบ่ายเบี่ยงตลอด ไม่ยอมพูดคุยใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งที่เวลาผ่านมาเป็นสัปดาห์แล้ว เท่าที่ทราบ เงินค่าจัดการแข่งขันทางสถานีทีวีแทนซาเนียก็จ่ายให้แล้วตามสัญญา แต่โปรโมเตอร์ยังไม่ยอมจ่ายเงินค่าตัวที่ค้างอยู่ให้กับศิริมงคล ไม่เพียงเท่านั้น ยังจะให้ฝ่ายไทยติดต่อกับ อำนาจ รื่นเริง อดีตแชมป์โลกชาวไทยอีกราย รับข้อเสนอไปชกที่แทนซาเนียในราวเดือน ก.พ.ปีหน้า พร้อมกับศิริมงคล ที่จะกลับไปชกล้างตากับ ควาฮา คิดูกู อีกครั้งด้วย

จากนั้นจึงจะยอมจ่ายค่าตัว ศิริมงคล” นางไอชา กล่าว ด้านศิริมงคลเสริมถึงประเด็นนี้ว่า “ผมได้ติดต่อกับอำนาจแล้ว แต่ดูเหมือนอำนาจจะไม่สนใจ เพราะเขาเรียกค่าตัวแพงถึง 4 แสนบาท หากจะให้ไปชกที่นั่น เมื่อเป็นดังนี้ทางโปรโมเตอร์แทนซาเนียก็ดูเหมือนจะทำท่าส่อแววว่าจะเบี้ยวค่าตัวของเก่าไม่ยอมจ่ายให้ผมอีกด้วย” อย่างไรก็ตาม “เจ้าโอ๋” อดีตแชมป์โลก 3 รุ่น 2 สถาบัน ยืนยันอีกว่า จากการเดินทางไปชกที่แทนซาเนียที่ผ่านมา ตนได้รับการต้อนรับและยกย่องจากประชาชนที่นั่นมากมาย จนมีนักธุรกิจใหญ่โดยการประสานของนางไอชา จะช่วยเป็นนายทุนให้ศิริมงคลได้กลับไปชกล้างตา รวมทั้งยังมีแผนจะจัดมวยไทยยกทีมไปต่อยกับนักมวยแทนซาเนีย และยังมีธุรกิจจะเปิดโรงยิมสอนมวยไทยโดยให้ศิริมงคลเป็นครูมวยที่นั่นต่อไปอีกด้วย