เสี่ยเน้า ประกาศลงจากตำแหน่ง อำลาชีวิตโปรโมเตอร์เพชรยินดี

เสี่ยเน้า เพชรยินดี หรือ นายวิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ ออกมาประกาศเรียกว่าทำเอาหลายคนตกใจไม่น้อย หลังได้ประกาศอำลาชีวิตโปรโมเตอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ 8 ธันวาคม 2558 โดยโพสต์ผ่านว่า หลังจากที่ลาออก พร้อมยืนยันว่าหลังจากนี้จะไปอยู่ เบื้องหลังเป็นที่ปรึกษา ให้กับครอบครัวลูกๆหลานๆ การออกจากโปรโมเตอร์ ถึงแม้ว่าจะสามารถลาออกจากโปรโมเตอร์ได้แต่สิ่งหนึ่งที่ลาออกไม่ได้นั่นก็คือวงการมวย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานี้ ย้ำเสมอว่า เกิดเป็นคนอย่าเอารัดเอาเปรียบใคร สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ

เราต้องเห็นนักมวยเป็นนักมวยไม่ใช่เครื่องมือหากินเพราะปัจจุบันนี้มีชีวิตได้ดีเพราะมวย ตลอดชีวิตการทำงานในเพชรยินดีกล้าพูดเต็มปากเต็มคำว่า ไม่เคยกินหัวคิวใคร! และสิ่งที่สำคัญที่สุดปัจจุบันนี้ภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้เห็น เพชรยินดี สามารถทำผลงานกลับมาอยู่ในหัวใจแฟนมวย เพราะความมุ่งมั่นของลูกชายโบ๊ท ปัจจุบันนี้สามารถพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าตัวเองนั้นดีแค่ไหน วันนี้เลยลาออก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานี้ถึงแม้ว่ามวยย้ายศึกไปเป็นร้อย ผมไม่เคยมีปัญหา ไม่เคยกีดกันใครทั้งนั้น ใครพอใจอยู่ อย่างไรก็ตามขอบคุณ

ใครอยากไปที่อื่น ก็ยินดียินดีเสมอ ไม่เคยโทษใคร สิ่งสำคัญที่สุดต้องมาโทษตัวเอง ที่ไม่สามารถดูแลเขาได้ดีพอ แต่ปัจจุบันนี้สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปในก็คือ มีแต่นักมวยที่อยากจะมาอยู่กับเพชรยินดี เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามันพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าใครเป็นอย่างไร คนจะได้เห็นก็ยามลำบาก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานี้เราไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง สิ่งสำคัญที่สุดนั่นก็คือไม่มีสักครั้งที่จะเห็นแก่ตัว หรือ เอาแต่ได้ เป็นกำลังใจให้วงการมวยไทย ขอให้เราฝ่าฟันวิกฤติในครั้งนี้ไปด้วยกัน ดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจากโควิด จากใจเสี่ยเน้า เพชรยินดี

สำหรับในอดีตหากเอ่ยถึง เสี่ยเน้าวงการอื่นอาจจะไม่รู้จัก แต่ถ้าเป็นวงการหรือในสังคมคมมวยรู้จักกันดี เป็นอีกหนึ่งโปรโมเตอร์ที่มีคุณภาพในฐานะที่เป็นโปรโมเตอร์จัดการแข่งขันมวยไทยที่สนามมวยเวทีลุมพินี และโปรโมเตอร์จัดแข่งขันศึกมวยโลกที่มีโปรแกรมการแข่งขันต่อมาตลอดตลอดปี สำหรับ เสี่ยเน้าปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานค่าย เพชรยินดี จำกัด ประวัติเกิดเมื่อวันที่ 25 พ.ย. พ.ศ.2490 เบื้องหลังชีวิตแล้วนะเกิดมาจากพื้นฐานของครอบครัวที่มีฐานะค่อนข้างดีเลย ซึ่งทางครอบครัวทำธุรกิจร้านเพชร ร้านทอง ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังมีร้าน “เพชรยินดี”อยู่ที่บางลำภู และที่พาหุรัด นั่นคือธุรกิจของครอบครัวที่บรรพบุรุษมอบให้มาตั้งแต่กำเนิด

ในส่วนวงการมวยนั้น  เสี่ยเน้า ทราบกันดีว่านิสัยส่วนตัวของเขานั้นเป็นคนที่มีนิสัยเป็นคนใจกว้าง รักเพื่อนพ้องที่สุด สมัยวัยรุ่นนั้นเป็นคนที่กล้าได้กล้าเสียพร้อมจะลุยไปข้างหน้าเสมอ และพออายุได้เพียง 20 ก็ได้เปิดประตูสู่วงการมวยครั้งแรกนิสัยส่วนตัวเป็นคนมีใจรักในด้านนี้  นิสัยส่วนตัวเป็นสุภาพบุรุษชอบอุปถัมภ์ เป็นคนรักเพื่อนฝูงที่สุดจนปัจจุบันนี้เป็นบุคคลที่มีคนรักมาก แล้วย้อนกลับไปช่วงวัยหนุ่ม  เสี่ยเน้า เริ่มต้นจากการเป็นเซียนมวยก่อน เข้า – ออกสนามเป็นว่าเล่นทุกคืน ไม่ว่าจะเป็นสนามมวยลุมพินี – ราชดำเนิน  และการทุ่มเทและคลั่งไคล้ขนาดนี้ทำให้เขานั้นประสบการณ์ในจุดนี้เองที่ นับตั้งแต่นั้นเขาก็หลงใหลรักชอบกีฬามวยไทยมาตั้งแต่บัดนั้น ยังไงก็ตามก็ต้องยอมรับว่าแม้ว่าจะอยู่ในช่วงวัยเรียน แถมฐานะทางบ้านนั้นถือว่าเป็นคนบุคคลที่เกิดมาจากตระกูลที่มีฐานะดีก็ตาม

ประวัติเมื่อคลุกคลีอยู่กับวงการมวยและมีพื้นสูงมาก หลังจากนั้นก็ได้มีจุดเปลี่ยนนั่นก็คือการตั้งค่ายมวยขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ.2518 ใช้ชื่อค่าย “เพชรยินดี” ปัจจุบันนี้โด่งดังเป็นอย่างมาก โดยเปิดค่ายมาก็มีนักมวยที่สร้างชื่อเสียงให้กับค่ายนั่นก็คือ เริงศักดิ์ – สกัดทอง –จอมไตร – ยอดเพชร เพชรยินดี นักชกมวยไทยที่ไต่เต้าเป็นถึงแชมเปี้ยนเวทีมาตรฐานเมืองไทย ซึ่งนี่ยังไม่รวมกับมวยในเครือข่าย ที่ซ้อมอยู่กับค่ายที่สร้างชื่ออีกหลายต่อหลายคน และปัจจุบันนี้ ค่ายมวยเพชรยินดี ก็ยังไม่จางหายไปจากสังคมมวยเลย นักมวยที่ยังเป็นแชมเปี้ยนเวทีนี้ก็คือ “ไอ้หนูคอมพิวเตอร์” ยอดแสนไกล เพชรยินดี

และแน่นอนว่าจากผลงานดังกล่าวนั้น หลังจากทำค่ายมวยโด่งดัง จน เป็นที่ยอมรับของแฟนมวย ในปี พ.ศ.2525 ทางด้านสนามมวยลุมพินีได้มอบตราตั้ง แต่งตั้ง เสี่ยเน้าให้เป็นโปรโมเตอร์ประจำของสนามมวยลุมพินี โดยใช้ชื่อรายการว่า “ศึกเพชรยินดี” มาตั้งแต่บัดนั้น ด้วยสโลแกน “ศึกเพชรยินดี มวยดี ที่พิสูจน์ได้” ยังใช้ได้มาจนวันนี้ ได้แล้วในช่วงปี พ.ศ. 2534-2536 ต้องยอมรับว่าช่วงนั้นเป็นยุคที่เศรษฐกิจประเทศไทยนั้น กำลังเติบโตและดีเป็นอย่างมาก ซึ่งตอนนั้นเงินบาทยังไม่ได้ลอยตัวขนาดนี้ ทาง เสี่ยเน้าเพชรยินดี ในเวลานั้นนอกเหนือจากประสบความสำเร็จเรื่องมวยไทยที่จัดรายการ “เพชรยินดี” เก็บเงินเป็นกอบเป็นกำเป็นว่าเล่น ซึ่งเวลานั้นต้องยอมรับว่ามีนักชกมวยไทย – มวยสากลสมัครเล่นในนามทีมชาติ ฉัตรชัย สาสะกุล ที่ถือว่าเป็นมวย 2 แบบที่อัจฉริยะเอามากๆ

เป็นยุคเฟื่องฟูอย่างแท้จริงของค่ายเสี่ยเน้า เพราะไม่เพียงแต่จัดมวยไทย ในประเทศเท่านั้น เพราะในด้านการเผยแพร่ศิลปะการป้องกันตัวมวยไทย ศิลปะการต่อสู้ประจำชาตินั้น ยังมีส่วนสำคัญที่สามารถผลักดันมวยไทย ข้ามน้ำข้ามทะเลไปโชว์ศิลปะแม่ไม้มวยไทยจน ได้การยอมรับในระดับนานาชาติด้วย โดยครั้งนั้นเป็นที่ฮือฮาเป็นอย่างมากเพราะ ทางค่ายนั้นเคยนำมวยไทยไฟต์ชกถึง ลอสแอลเจลิส สหรัฐอเมริกา และหลังประสบความสำเร็จอย่างมาก ในปี 2535 เพชรยินดีได้ทำสิ่งใหม่อีกครั้งนั้นก็คือการมาทำธุรกิจโกอินเตอร์เรื่องมวย ซึ่งตอนนั้นเองสามารถสร้างมวยไทยให้ก้าวไปสู่ระดับโลกมาแล้วมากมายไม่ว่าจะเป็น แชมป์ของสภามวยโลก ถึง 5 คน ไม่ว่าจะเป็น

อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าตลอด 20 ที่ผ่านมานี้ เสี่ยเน้าเป็นอีกหนึ่งบุคคลสําคัญที่สร้างมิติใหม่ให้กับวงการมวยอย่างแท้จริง สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือการที่เขานั้นสร้างแชมป์โลกไม้ประดับบารมีของคนไทย สิ่งสำคัญที่สุดยังเป็นอีกหนึ่งบุคคลสําคัญของวงการมวยที่สามารถกล้าพลิกโฉมวงการมวยไทย อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าเสี่ยเน้า ได้สร้างสรรค์สิ่งดีๆ สิ่งแปลกใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่น่าเชื่อถือเป็นอย่างมากในปัจจุบันนี้

ทั้งนี้ยังเป็นอีกหนึ่งบุคคลตัวอย่างและเป็น ผู้นำเรื่องการที่เป็นนักธุรกิจแกนนำให้กับ สังคมมวยมากทีเดียวในยุคนี้ เป็นเจ้าของบริษัทผลิตงานมวยที่ประสบความสำเร็จหลายๆ ด้านที่ลงตัวที่สุด ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังหาคนที่จะมาเปรียบเทียบกับตัวนั้นยากมาก  ข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้นะหลังจากที่เจ้าตัวได้ประกาศอำลาการเป็นโปรโมเตอร์ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมานี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนใจหายเหมือนกัน ยังไงก็ตามก็ต้องติดตามกันต่อไปสำหรับรุ่นลูก อย่าง เสี่ยโบ๊ท ที่ปัจจุบันนี้ฉายแววน่าติดตามไม่แพ้รุ่นพ่อ ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าอนาคตมวยไทยนั้นจะเป็นอย่างไรต่อ

ติดตามข่าวสารทุกวงการมวยได้ที่ muaytoday.com

แทงมวยออนไลน์ ราคาน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย