เทรนเนอร์เก เปิดสุดยอดเคล็ดลับ ผู้ติดตาม1.6 ล้านกลับวิธีง่ายๆ

เทรนเนอร์เก สุดยอดคู่มวยที่แฟนมวยทราบกันดีว่า เป็นเทรนเนอร์คู่ใจของ ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน แต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับเลยว่าปัจจุบันนี้เขาเป็นอีกหนึ่งบุคคลสำคัญในโลกโซเชียลเป็นอย่างมากของวงการมวยไทยกับการที่ปัจจุบันนี้ มีลูกเพจติดตามผลงานมาก ถึง 1.6 ล้านผู้ใช้งานใน Facebook ทั้งที่ใช้วิธีบ้านๆ คือตั้งกล้องถ่ายทำแค่ตัวเดียว แล้วถ่ายรวดเดียวจบ ไม่มีการสั่งคัตหรือตัดต่อ ถ่ายเสร็จก็อัพลงให้แฟน ๆ ได้ชมเลย โดยไม่ต้องผ่านการปรุงแต่งหรือเขียนบทสคริปท์ ทำไมคลิปสอนมวยไทยที่ดูเหมือนไม่ได้มีอะไร ของเทรนเนอร์เก กลับได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก

สำหรับประวัตินั้นทางด้าน เทรนเนอร์เก หรือ นายสุทัศน์ ม่วงมัน เกิดเมืองสี่แคว จังหวัดนครสวรรค์ ชาวบ้านละแวกนั้นเรียกเจ้าตัวว่า “เก” มาจากคำว่า เกเร เพราะมีเรื่องชกต่อยกับเด็กรุ่นราวคราวกันบ่อยๆ ก่อนแอบทางบ้านไปหัดมวย และขึ้นต่อยงานวัดเป็นประจำ จนมีคนเห็นแวว แนะนำให้ไปอยู่ค่ายมวยเป็นเรื่องเป็นราว ช่วงแรกๆ ใช้ชื่อ แสนศักดิ์ ว.ทวีเกียรติ พอเข้าเมืองกรุงจึงเปลี่ยนชื่อเป็น ลิงลม ว.วลาพล ขึ้นชกที่เวทีราชดำเนินจนกลายเป็นดาวรุ่งฝีมือดีที่น่าจับตามองคนหนึ่ง

“หากย้อนกลับไปเมื่อตอนวัยรุ่น ตนเองนั้นเป็นคนที่ไม่ค่อยเรียนหนังสือ ชอบไปอยู่บ้านเพื่อน พอได้มาอยู่ค่ายมวย มีเพื่อนเยอะ มีที่พัก มีข้าวให้กินฟรี จึงเกิดความชอบ ผมตั้งใจชกกระทั่งฟอร์มเริ่มดีวันดีคืน ยิ่งมีหัวหน้าคณะเป็นนายตำรวจผมยิ่งทำตัวเก๋าเลยครับ ไปคุยให้ใครฟังว่าเป็นลูกน้องนายตำรวจใหญ่แล้วรู้สึกเท่ดี ตอนหลังได้มาชกที่เวทีราชดำเนิน มันเป็นความฝันของนักมวยบ้านนอกอย่างผม ผมจึงตั้งใจชกจนชนะติดๆ กันหลายไฟต์ แต่โชคร้ายมาโดนคู่ต่อสู้เตะจนขาหักต้องดามเหล็ก แม้จะรักษาตัวจนหาย แต่หมอไม่แนะนำให้กลับมาชก เพราะขาข้างที่เจ็บอาจจะหักขึ้นมาอีกครั้งก็ได้”

“ผมฟังแล้วใจหายเลยครับ ผมตั้งใจมาชกสร้างชื่อในเมืองกรุงแต่มาโชคร้ายโดนเตะจนขาพิการ ความจริงผมรักษาจนหายดี แล้วกลับมาเดินได้ตามปกติ แค่อยากจะสื่อว่าผมได้รับบาดเจ็บครั้งนั้น มันเลวร้ายกับชีวิตมากจนถึงขนาดต้องตัดใจแขวนนวม ทั้งที่ใจยังสู้ยังอยากจะกลับมาชกมวยต่อไป หลังแขวนนวมตั้งแต่อายุยังน้อย “สุทัศน์” ตัดสินใจกลับบ้านไปบวชเพื่อสงบสติอารมณ์ ช่วงเวลานับ 10 พรรษาใต้ร่มกาสาวพัสตร์ เขาแทบจะตัดขาดจากโลกภายนอก มุ่งหน้าสู่ปฏิบัติธรรมเต็มตัว ในสายธรรมยุติกนิกาย

เมื่อลาสิกขาออกมา “เทรนเนอร์เก” ได้รับคำชวนจากเพื่อนเก่าที่เคยซ้อมมวยด้วยกันให้มาทำงานเป็น ครูสอนมวยไทย โดยเจ้าตัวได้เอาวิชาความรู้ที่ติดตัว และประสบการณ์เก่า ๆ มาประยุกต์เป็นรูปแบบการสอนในสไตล์ของตัวเอง จนมีโอกาสบินไปสอนมวยประเทศต่างๆ เกินกว่า 10 ประเทศ ผ่านการสอนมวยที่ค่ายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นค่ายมวยศศิประภายิม และ อีลิต ไฟต์ คลับ ซึ่งเป็นยิมสอนมวยไทยที่ทันสมัย มีชาวต่างชาติมาเรียนมวยไทยเยอะมาก

และตรงจุดนี้นี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นในการทำคลิปของ เทรนเนอร์เก เพราะหลายครั้งมีลูกศิษย์ต่างชาติมาเรียนมวยกับเขา จะมีการตั้งกล้องบันทึกเทป และนำเอาคลิปไปเผยแพร่ลงบนโลกอินเตอร์ จนทำให้ผู้ชมที่ไม่รู้จักเทรนเนอร์เกมาก่อน ต่างสนใจ และเขาก็เริ่มค่อย ๆ ดังในโลกออนไลน์จากจุดนี้ ด้วยความที่ผมยังอยากชกมวย ฉะนั้นเวลาสอนลูกศิษย์ต่างชาติ ผมจะเป็นทั้งคนล่อเป้าและเป็นคู่ซ้อมให้ลูกศิษย์ของผมไปพร้อมๆ กัน” ด้วยวิธีการสอนที่สนองความต้องการของตัวเองเป็นหลัก แต่กลับกลายเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติโดยไม่รู้ตัว หลายคนบอกว่าเป็นการฝึกมวยไทยที่สนุกตื่นเต้น และสามารถนำไปใช้ได้จริง

พอชาวต่างชาติมาเรียนแล้วกลับไปบอกปากต่อปาก รวมทั้งถ่ายคลิปเผยแพร่ตามช่องทางต่างๆ ยิ่งทำให้เทรนเนอร์เกกลายเป็นที่รู้จัก จนได้รับเชิญให้ไปสอนมวยในต่างประเทศอยู่บ่อยๆ เทรนเนอร์เกมองว่า การให้ลูกศิษย์ฝึกซ้อมเตะกระสอบล่อเป้าตามโปรแกรมเพียงอย่างเดียว อาจได้ประโยชน์ในเรื่องของสปีดและความเร็ว แต่ไม่ช่วยให้เกิดความชำนาญและความคุ้นเคย

โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่มาฝึกเพื่อขึ้นชกจริง ฉะนั้นการเรียนตัวต่อตัวกับเทรนเนอร์เก จึงได้เพิ่มออพชั่นคือ เป็นทั้งมือเป้าและคู่ซ้อมในเวลาเดียวกัน ซึ่งหลายคนชมว่าเป็นวิธีการสอนที่ดี โดยเฉพาะการฝึกลูกแก้-ลูกกันไว้ต่อสู้กับเหลี่ยมเชิงของคู่ต่อสู้ ผมอยากให้แนวคิดง่ายๆ สำหรับผู้จะมาเรียนมวยไทยกับผมว่า ถ้าคุณร้องไห้ได้ คุณบ่นได้ แปลว่าคุณยังมีแรงซ้อมต่อ คุณยังไม่เหนื่อย ตอนซ้อมคุณเหนื่อยคุณพักได้ แต่ในการต่อสู้บนเวที ถ้าคุณแสดงอาการว่าคุณเหนื่อย คู่ต่อสู้จะถล่มคุณ คุณตายแน่นอน ถ้าฝึกซ้อมเบาๆ ไม่จริงจัง ไม่รุนแรง คุณก็จะเป็นนักสู้ที่อ่อนแอ”

”คนมาเรียนกับผม ส่วนใหญ่เพิ่งหัดมวย เวลาออกอาวุธ ผมจะเกร็งรับได้หมด ผมจะบอกให้เขาออกอาวุธเต็มแรง ไม่ต้องเกรงใจหรือกลัวว่าผมจะเจ็บ” ถ้าปล่อยให้เขาเตะต่อยแบบยั้งๆ มันจะติดตัวไปตลอดจนถึงเวลาขึ้นชกจริง เขาจะกลายเป็นนักมวยที่ออกอาวุธไม่สุดจนขาดความหนักหน่วงรุนแรงไปทันที”

“ใครดูคลิปการสอนมวยของผมครั้งแรก อาจมองว่าผมทำรุนแรงกับลูกศิษย์เกินไปหรือไม่ เพราะบางคนโดนผมเตะตัดขาจนร่วงก้นกระแทกพื้นอย่างจัง เรื่องนี้คนที่เรียนกับผมจะเข้าใจและชอบวิธีการสอนของผม เขาจะตั้งใจฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ เพราะเขารู้ดีว่ายิ่งฝึกให้เป็นมวยเร็วเท่าไหร่ ยิ่งส่งผลดีกับเขา”

เทรนเนอร์ เก ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่ค่อยชำนาญเรื่องการใช้เทคโนโลยีสักเท่าไหร่ นั่นจึงเป็นเหตุผลหลักที่เขาเลือกทำคอนเทนต์ โดยใช้การอัดคลิปสั้นจากโทรศัพท์มือถือ และลงไปทั้งอย่างนั้น โดยไม่ผ่านการตกแต่งหรือตัดแต่งให้เกินจริง เพราะแม้แต่เพจที่เขาใช้ ก็ได้ลูกศิษย์มาช่วยเปิดและสมัคร Account ให้

“ผมดีใจที่คนดูคลิปการสอนมวยของผมแล้วพากันบอกว่า เป็นการสอนที่ดูสนุกสมจริง บางคนอาจมองว่าผมฝึกหนักเกินไป จนกลัวจะได้รับบาดเจ็บ แต่ชาวต่างชาติที่มาเรียนกับผม ส่วนใหญ่มาฝึกเพื่อขึ้นชก เขาจึงเตรียมตัวเตรียมใจมารับการฝึกในสไตล์ของผม ผมมีหน้าที่ฝึกให้เขาเก่งขึ้น โดยเฉพาะใครที่ไม่เป็นมวย จะเป็นหน้าที่ของผมที่ต้องเค้นเอาความเก่งของเขาออกมาให้ได้ ผมไม่อยากเห็นลูกศิษย์ของผมขึ้นชกแบบเก้ๆกังๆ หรือกลัวคู่ต่อสู้จนต้องหลับหูหลับตาขึ้นไปขว้างหมัดใส่แบบไม่มีตำรา นั่นอาจจะทำให้เขาเจ็บหนักหลังการชก

ถ้าเป็นอย่างนั้นก็สู้ให้เขารู้จักความเจ็บปวดตั้งแต่ตอนซ้อมไม่ดีกว่าหรือครับ เขาจะได้มีประสบการณ์และภูมิต้านทานที่สามารถทนอาวุธคู่ต่อสู้ได้ บางคนอาจจะมองว่าผมฝึกหนักและดูอันตรายเกินไป แต่ผมก็มีลิมิตและคำนึงเรื่องความปลอดภัยอยู่นะครับ ถ้าลูกศิษย์คนไหนยังรับการฝึกหนักจากผมไม่ได้ ผมก็จะปรับโปรแกรมการฝึกให้เบาลง แล้วค่อยๆ เพิ่มระดับความเข้มข้นตามลำดับครับ”

ติดตามข่าวสารทุกวงการมวยได้ที่ muaytoday.com

แทงมวยออนไลน์ ราคาน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย