หยกขาว ส.พงศ์อมร หมดอนาคตล้มมวย เสี่ยมรรับไม่ได้ ลั่นจะไม่จัดชกอีก

 หยกขาว ส.พงศ์อมร หลังจากที่แพ้คะแนน ฉลามขาว ศูนย์กีฬาท่าเสาร์ ในศึกมวยไทยพลังใหม่ เมื่อคืนวันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา สิทธิ์ ปากผนัง ผู้ช่วยโปรโมเตอร์เข้าไปสอบสวน พร้อมพูดกับหยกขาวว่าขอให้รับสารภาพมาว่าใครจ้างล้มมวย และบอกว่าจะไม่จัดชกอีกต่อไป เพราะไม่ซื่อสัตย์ ต่อวิชาชีพ

ขณะที่เสี่ยมร ผักสด หัวหน้าคณะ ก็ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กว่า ขอโทษ FC ทุกๆคนด้วยนะครับ หยกขาว ส.พงศ์อมร ผลเมื่อคื่นพลิกแพ้ ฉลามขาว ต่อยมวยเหมือนไม่อยากชนะ เหมือนอยากแพ้ ต่อยมวยไม่ตามที่สั่ง สั่งอย่างต่อยอย่าง ทั้งที่การฟิตซ้อมอะไรก็ดีหมด แต่ต่อยได้แค่นี้

หลังเกมการชก ส่วนตัวผมมองแปลกๆต่อยผิดฟอร์มมากๆ อุตส่าห์ให้โอกาสแล้ว ถ้าคิดไม่ดีหรือทรยศกับอาชีพตัวเอง ก็สมควรไปหางานใหม่ทำซะ คงไม่มีโอกาสได้ต่อยอีกแล้ว กราบขอโทษ พี่ๆเพื่อนๆ FC ทุกๆคนอีกครั้ง ที่ทำให้ผิดหวัง ส่วนตัวผมรู้สึกผิดหวังมากครับ แพ้ชนะ ถ้าตามเกมกีฬา ผมรับได้ แต่นี่แพ้แบบมีข้อครหา ต่อยไม่ตามใบสั่ง ผมรับไม่ได้ อย่างงี้ต้องให้เลิกไปเลยครับ

หยกขาว ส.พงศ์อมร ต้องยอมรับเลยว่าเป็นอีกหนึ่งนักชกที่ถือไม้ลายมือไม่ธรรมดาอีกคนนึง เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นอีกหนึ่งนักชกที่อนาคตกำลังยุ่งเลยทีเดียวเพราะอายุเพียงแค่ 23 ปี ปัจจุบันนี้เป็นที่หนึ่งที่ได้รับฉายามากมายไม่ว่าจะเป็น แสนคม ปุ๋ยดีนายดี,ปุ๋ยดีนาดี,เพชรสามพราน ว.วังพรหม,ป.เตละกุล โดยชั้นเชิงการชกมวยนั้นแฟนมวยรู้ดีว่าเขานั้นเป็นนักชกที่ มวยฝีมืออาวุธคล่องต้นไม่เท่าไหร่ขวางแทงจับกดตียัดใส้ดีเก๋าเกม

แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเสียใจให้กับเจ้าของค่ายมวย เท่านั้นยังไม่พอก็มีแฟนมวยจำนวนมากต่างเข้าไปแสดงความคิดเห็นไม่พอใจเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็น ทรยศ ต่ออาชีพ ไม่มีวันได้เกิด มีแต่ดับลงไปเลื่อยๆๆ เลี้ยงเสียข้าวสุก,มวยมีสิทธิ์กดน็อตได้แต่ไม่ทำยก3เงินจะไปแล้วชกไปชกมาออกแบบคู่คี่สุดท้ายก็แพ้,ผมว่าไม่ต้องสอบเขาหลอกเพราะหลักฐานมันไม่มีเขาก็ไม่รับแต่เงินที่เขาใด้มามันร้อนใช้ไม่ใด้นานเดี๋ยวก็หมดเวรกรรมผู้ใดสร้างไว้จะต้องใด้รับโทษไม่ช้าก็เร็วครับ,มวยใต้ส่วนใหญ่ฉลาด หลายๆคนเลิกมวย ตั้งตัวได้ ผิดกับมวยอิสานที่ซื่อ ส่วนใหญ่ไม่รวย ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ต้องติดตามกันอย่างยาวเพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า การล้มมวยปัจจุบันนี้มีโทษร้ายแรงโดย สิ่งแรกนั้นที่จะโดนนั้นก็คือตามกฎหมายแล้ว ได้มีการบัญญัติว่า มาตรา 58 สโมสรกีฬาอาชีพ สมาคมกีฬาอาชีพ ไม่จดแจ้งดำเนินการตามมาตรา 17 วรรคหนึ่ง ไม่แจ้งเปลี่ยนแปลงรายละเอียดข้อมูล หลักฐานที่ได้เคยยื่นขอจดแจ้งไว้แล้วตามมาตรา 20 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท

อย่างไรก็ตามสำหรับ มาตรา 59 ถ้าหากว่าทางด้านสโมสรกีฬาอาชีพ ไม่สามารถจัดทำสัญญาจ้าง ตกลงร่วมกันเป็นหนังสือ หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการจ้าง ที่คณะกรรมการประกาศกำหนดตามมาตรา 21 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท, มาตรา 60 สโมสรกีฬาอาชีพ สมาคมกีฬาอาชีพ ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 22 มาตรา 23 หรือมาตรา 24 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

และ มาตรา 61 ถ้าหากว่าทางด้านสโมสรกีฬาอาชีพและสมาคมกีฬาอาชีพ ไม่ใส่ใจหรือว่าไม่ได้สนใจนักกีฬาอาชีพ แล้วผู้ดูแลกีฬาอาชีพ รวมไปถึงกองเชียร์ทั้งหลาย ที่อยู่ภายในบริเวณสถานที่จัดให้อยู่ในความเรียบร้อยตามมาตรา 27 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท, มาตรา 62 ผู้จัดกีฬาอาชีพ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 37 ต้องระวางโทษปรับวันละไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท มาตรา 63 การกำหนดโทษปรับทางปกครอง การพิจารณาลงโทษทางปกครอง ให้คณะกรรมการคำนึงถึงความร้ายแรงของพฤติการณ์แห่งการกระทำความเสียหายที่เกิดจากการกระทำนั้นตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราที่คณะกรรมการกำหนด

และข้อที่ 2 ดูเหมือนจะเป็นโทษที่รุนแรงสูงสุด สำหรับโทษทางอาญา มาตรา 64 ผู้ใดให้ ขอให้รับว่าจะให้ทรัพย์สิน ประโยชน์อื่นใดแก่นักกีฬาอาชีพ ผู้อื่น เพื่อจูงใจให้นักกีฬาอาชีพกระทำการล้มกีฬา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, มาตรา 65 ผู้ใดเรียก รับ ยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง ผู้อื่นเพื่อให้มีการกระทำการล้มกีฬา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน5 ปี หรือปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 66 ผู้ใดก็ตาม ตั้งใจรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ผู้ตัดสินหรือผู้อื่นเพื่อจูงใจให้ผู้ตัดสินทำหน้าที่ตัดสินไม่เป็นไปตามระเบียบ หรือกติกา หรือทำหน้าที่ตัดสินอย่างไม่ถูกต้องเที่ยงธรรม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 67 ผู้ตัดสินใดเรียก รับ ยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เพื่อทำหน้าที่ตัดสินไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกติกา หรือทำหน้าที่ตัดสินอย่างไม่ถูกต้องเที่ยงธรรม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สามแสนบาทถึงหกแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

และสุดท้ายสำหรับ มาตรา 68 ผู้กระทำผิดตามข้อทั้งหมดหรือว่าข้อใดข้อหนึ่ง เพิ่งคำนึงไว้เลยว่าต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (1) ไม่มาให้ถ้อยคำ ส่งเอกสารหลักฐาน สิ่งอื่นใดตามคำสั่งของคณะกรรมการ (2) ขัดขวางไม่อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของนายทะเบียน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่

ติดตามข่าวสารทุกวงการมวยได้ที่ muaytoday.com

แทงมวยออนไลน์ ราคาน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย