ยอดวิทยา นักสู้ใจไม่ยอมแพ้ แม้ต่อยมานานจนลูกชายดังกว่า เมื่อพูดถึงเด็กชายณัฐพล อานุภาพ หรือน้องกำปั้นล้านวิว หลายคนคงจะนึกถึงเด็กตัวน้อย ที่ขึ้นชกมวยด้วยสไตล์การชกที่สนุก ดุเดือด แลกกำปั้นแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำให้หนูน้อยวัยเพียง 7 ขวบ โด่งดังเป็นพลุแตก จนได้ออกรายการ Super 10 ทางช่องเวิร์คพอยท์ และเป็นนักมวยเด็กที่มีแฟนคลับติดตามเป็นจำนวนไม่น้อย แต่ในอีกด้านหนึ่ง คุณพ่อบังเกิดเกล้าของน้องกำปั้นอย่าง วิทยา อานุภาพ หรือ “ยอดวิทยา เสถียรมวยไทย” กลับไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างเหมือนกับลูกชาย ทั้งที่ชกมวยนานถึง 26 ปี และเขาเป็นทั้งต้นแบบในด้านความเป็นนักสู้ และเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาให้บุตรชาย อะไรทำให้ชายวัย 34 ปีอย่าง ยอดวิทยา ยังสู้อยู่บนสังเวียนเลือด แม้ไม่ได้เด่นดังเหมือนอย่างใคร แต่ก็ยังเดินต่อไปในรูปแบบมวยไทย 3 ยก
“เดิมทีพื้นเพ ผมเกิดที่อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู แต่มาตั้งรกราก สร้างครอบครัวกับภรรยาที่จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่า ผมเป็นคนอยุธยา ผมเริ่มต่อยมวยมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ก็ด้วยความอยากรู้ อยากลองนั่นแหละครับ ช่วงนั้นถ้าเป็นภาษาวัยรุ่นก็ต้องประมาณร่างกายต้องการการปะทะอะไรอย่างนี้” “ชีวิตผมเรียกว่ามีแต่มวยครับ ถึงตอนนี้ผมอายุ 34 ปี เท่ากับว่าต่อยมวยมาทั้งหมด 26 ปี”
เส้นทางบนผืนผ้าใบของ ยอดวิทยาไม่ได้ต่างอะไรกับบรรดานักมวยไทยอาชีพทั่วไป ที่เริ่มต้นจากการเก็บเกี่ยวกระดูกประสบการณ์ และคว้าชัยชนะในระดับภูธรได้ก่อน จากนั้นก็ค่อยมาต่อยอดในนครบาล ชกตามเวทีมาตรฐานเมืองกรุง เพื่อก้าวไปสู่การเป็นมวยดังในอนาคต อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ว่าทุกคนที่เก่งจากต่างจังหวัด จะมาประสบความสำเร็จ ยามเปลี่ยนมาชกที่เวทีใหญ่ “ยอดวิทยาเองก็เช่นกัน
แม้เขาจะผ่านการชกมวยในเมืองหลวงอย่างมาโชกโชน ต่อยมาแล้วแทบทุกศึก แต่ผลงานและวาสนาของเขา ก็ไม่เคยโดดเด่นพอที่จะถูกผลักดันให้ชิงแชมป์เลยแม้แต่ครั้งเดียว “พอต่อยภูธรจนเรียกว่าไม่มีตัวต่อยแล้ว ก็มีคนชักชวนเข้ามาต่อยที่กรุงเทพฯ ผมเห็นว่าเป็นความท้าทาย จึงตอบตกลงทันที”
“ผมต่อยเวทีมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นเวทีลุมพินี ราชดำเนิน หรือจะเป็นศึกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศึกจ้าวมวยไทย , ศึกอัศวินดำ , ระดับคู่เอก คู่รอง คู่ค้ำหรือแม้กระทั่งมวยรอบชื่อดังของสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ผมก็เคยต่อยมาแล้ว” “แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ ผมไม่เคยชิงแชมป์อะไรสักเส้นเลย แต่ก็ไม่เคยท้อครับ ตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
คิดอย่างเดียวว่าจะชกอย่างไรให้แฟนมวยรู้สึกสนุกมากที่สุด” ยอดวิทยายังคงเดินหน้าชกต่อไป ตราบใดที่ยังมีรายการให้เขาได้ขึ้นสังเวียน ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ เขาคิดแค่ว่า ต้องขึ้นไปชกให้สนุกถูกใจคนดู และพยายามสู้ให้ถึงที่สุด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่สไตล์ของ ยอดวิทยาเป็นมวยบู๊ สู้ไม่ถอย หัวจิตหัวใจดี ถึงแม้เขาจะไม่ใช่นักมวยเกรดเงินแสนก็ตาม
กระทั่งภรรยาของ ยอดวิทยาตั้งครรภ์ ทำให้ ยอดวิทยามีความคิดอยากเลิกชกมวย เพื่อใช้เวลาทุ่มเทในการดูแลครอบครัวให้มากยิ่งขึ้น ยอดวิทยาตั้งชื่อลูกชายของเขาว่า “กำปั้น” อันสื่อถึงเครื่องมือที่เขาทำมาหากินตลอดชีวิต และเป็นอาชีพที่เขารักสุดหัวใจ ในตอนแรกความตั้งใจของ ยอดวิทยา คือไม่อยากให้ลูกชายชกมวย เพราะเขาเคยผ่านชีวิตการเป็นนักมวยไทยมาก่อน รู้ดีถึงความยากลำบาก ไม่ต้องการให้น้องกำปั้นมาเดินบนเส้นทางสายเดียวกันกับตัวเอง ทว่าเหมือนสายเลือดนักสู้จากผู้เป็นพ่อ ถูกถ่ายทอดสดส่งมาถึงน้องกำปั้น แบบไม่ได้ตั้งใจ จนสุดท้าย ยอดวิทยาก็ต้องยอมปล่อยให้ลูกชายเลือกชกมวยแบบเดียวกับตนเอง
“เรื่องของกำปั้นเนี่ย ที่จริงแล้วผมไม่ได้อยากให้เขาเป็นนักมวยหรอกครับ ผมไม่เคยสอน ไม่เคยบอกให้เขาทำอะไรเลย แต่เขาก็ชอบเอง และซ้อมเอง ไฟต์แรกที่กำปั้ยต อย ตอนนั้นน้องขึ้นชกไฟท์แรกตอน 3 ขวบครึ่ง แล้วมีคนไลฟ์สด แม้จะขึ้นชกครั้งแรก แต่กำปั้นต่อยสนุกมาก แลกอาวุธกับคู่ชกตลอด 3 ยก”
“พอรุ่งขึ้น ปรากฏว่ามีนักข่าวมาขอสัมภาษณ์ ขอคลิปเยอะมาก ก็เลยทำให้กำปั้นนี่ดังกว่าผมไปเยอะเลย ส่วนตัวภูมิใจและดีใจครับ ที่ลูกเรามีชื่อเสียงจากการชกมวยมากกว่าผม ”
แววตาที่มุ่งมั่นของน้องกำปั้น กลายเป็นสิ่งที่ผู้ชมต่างสัมผัสถึงหัวใจที่รักมวยไทย และความกระหายที่อยากจะประสบความสำเร็จในอาชีพของเจ้าหนูใจเพชรรายนี้ ไม่เพียงเท่านั้นสิ่งเหล่านี้ยังได้ปลุกไฟในตัวของผู้เป็นพ่ออย่าง ยอดวิทยาให้มีความคิดอยากจะกลับไปชกมวยอีกครั้ง เนื่องจากตอนทีพักการชกมวย เขายังดูแลสภาพร่างกายตลอดมา
จนสุดท้ายก็มาลงตัวในรูปแบบมวยไทย 3 ยก ในรายการ มวยไทย Super Champ ของทีม Lui Muay Thai ทุกครั้งที่ ยอดวิทยา มาชกเขามักหอบหิ้วบุตรชายหัวแก้วหัวแหวน ติดตามมาด้วยเสมอ จนกลายเป็นเอกลักษณ์ยามที่ ยอดวิทยาคว้าชัยชนะ เขาและน้องกำปั้น ก็มาทำท่าเบ่งกล้ามให้กล้องได้บันทึกคู่พ่อลูกหัวใจนักสู้
หลังผ่านการชกมวยไทยรูปแบบ 3 ยกมาได้ 3 ปี “ยอดวิทยาก็ถูกเลือกเข้ามาแข่งขันมวยรอบเงินไชโย ซึ่งเขาสามารถฝ่าด่านรุ่นน้อง จนทะลุเข้าไปชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรก (กำหนดแข่งวันที่ 24 สิงหาคมนี้) แม้อาจเป็นเพียงแค่ ทัวร์นาเมนต์มวยรอบของ มวยไทย 3 ยกรายการหนึ่ง แต่สำหรับ “ยอดวิทยานี่คือโอกาสที่เขารอคอยมาทั้งชีวิต เพราะตลอดระยะเวลา 26 ปีที่ชกมวยมา เขาไม่เคยได้ชิงเข็มขัดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตอนนี้ผมอายุ 34 ปี แล้วได้มีโอกาสชิงแชมป์ ถึงแม้ว่าเป็นรายการมวยรอบ แต่ผมก็ถือว่าเป็นเกียรติยศสูงสุดของผมแล้ว ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด และต่อยให้สนุกที่สุดครับ”
ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้าย “ยอดวิทยา’ จะสมหวังได้แชมป์หรือไม่ ? แต่อย่างน้อยเรื่องราวของเขาก็คงสะท้อนภาพของชายนักสู้ที่อาจไม่ได้เด่นดัง จนหลายจดจำ แต่สำหรับน้องกำปั้นแล้ว คุณพ่อของเขาคือแบบอย่างที่ดีของการเป็นนักมวยใจเพชร และไม่เคยหยุดฝัน ผมอยากให้นักมวยหรือใครก็ตามครับที่มีความฝัน อย่าเพิ่งหยุดฝัน เพราะว่ามันอยู่แค่ว่าเราจะทำฝันนั้นให้เป็นจริงด้วยตัวเองหรือไม่ หากมัวแต่รอหรือไม่ทำ ก็ไม่มีวันที่ความฝันนั้นจะเป็นจริงหรอกครับ”
ติดตามข่าวสารทุกวงการมวยได้ที่ muaytoday.com
แทงมวยออนไลน์ ราคาน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย