“บิ๊กแดง” พล.ท.สุชาติ แดงประไพ มานั่งแท่นนายสนามมวยลุมพินี ได้เปิดใจถึงหลังดำรงตำแหน่งถึง สังเวียนเลือด หรือ มวยไทย คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของสยามประเทศ และสังเวียนที่ขึ้นชื่อที่สุดสังเวียนหนึ่ง คือ “ลุมพินี” ถึงวันนี้ ลุมพินีมีอายุ 64 ปี นักมวยดังระดับประเทศทุกคนล้วนเคยผ่านสังเวียนนี้ เมื่อช่วงเดือนมีนาคมปีที่แล้ว สนามมวยลุมพินี คือต้นตอการแพร่ระบาดโควิด-19 ในระลอกแรก ทำให้ “สังเวียนเลือดแห่งนี้” ถูกตำหนิจากสังคม กระทั่งมีการปิดให้บริการยาวนานถึง 7 เดือน ก่อนจะกลับมาเปิดอีกครั้งในช่วงปลายปี และมีการเปลี่ยนแปลงแก้ปัญหาภายใน โดยมี “บิ๊กแดง” พล.ท.สุชาติ แดงประไพ มานั่งแท่นนายสนามมวยลุมพินี มีรายงานว่า
สนามมวยลุมพินี จะเปิดให้บริการอีกครั้งต้นเดือนมีนาคม 2564 นี้ สำหรับมาตรการป้องกันโควิด-19 พล.ท.สุชาติ กล่าวว่า เรารู้ว่า โควิด-19 จะเกิดที่ลุมพินีอีกครั้งไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะถ้าเกิดอีกครั้งก็อาจไม่มีสนามมวยลุมพินีให้จัดมวยอีกต่อไป ดังนั้น เราจึงเตรียมมาตรการป้องกันโควิด ตั้งแต่ทางเข้า มีเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ แอปไทยชนะ เจลล้างมืออยู่แทบทุกจุด รวมถึงการใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม “บนเวที นักมวยใส่แมสก์ก่อนขึ้นชก แต่เวลาชกจะไม่ใส่ หลังการชกแต่ละยกจะมีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคอุปกรณ์ทุกชิ้น” พล.ท.สุชาติ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการพนันขันต่อ เราต้องยอมรับความจริงว่ามันมีอยู่แล้ว ตั้งแต่ในเวที หน้าจอทีวี หรือสภากาแฟ ทั้งหมดนี้มีผู้เล่น และผู้ที่ควบคุมการเล่น ฉะนั้น สิ่งที่ลุมพินีทำ คือ การควบคุมไม่ให้เกิดการโกงเกิดขึ้น โดยมีการกำหนดรูปแบบกรรมการให้มีมาตรฐาน โดยมีหัวหน้ากรรมการควบคุมกรรมการอีกครั้ง ถึงแม้ว่าผมจะเป็นนายสนามมวยก็ไม่สามารถเข้าแทรกแซงได้ “หลังจากเข้ามารับตำแหน่ง จะไม่ปล่อยให้มีการสร้างอิทธิพลเด็ดขาด เมื่อก่อนเป็นอย่างไรไม่ทราบ แต่ถ้าการชกดูแล้วมีปัญหา เราจะมีการให้เวลาชี้แจง ถ้ารู้สึกว่ากรรมการนั้นเป็นตัวปัญหา เช่น เรารู้ว่าแดงชนะ แต่ไปให้น้ำเงินชนะ แบบนี้รู้สึกว่าถ้ากรรมการมีปัญหา เราก็ให้กรรมการออก ไม่จำเป็นต้องรอให้แฟนมวยมาประท้วง ถ้าตัดสินผิดพลาดไม่มีโอกาสเป็นครั้งที่สอง”