ทำความรู้จัก นักมวยจอมบู๊แถวหน้าของแวดวงมวยไทย “ช่อฟ้า ท.แสงเทียนน้อย” ที่ทำผลงานชนตาจนได้รับจังหวะให้วาดลวดลายแม่ไม้มวยไทยบนเวทียิ่งใหญ่สุดยอด วัน แชมเปียนชิพ “ช่อฟ้า ท.แสงเทียนน้อย” ยอดความสามารถมวยไทยจากจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ช่องก้าวสู่เวทีระดับนานาชาติจากสไตล์การต่อยที่เลื่องลือว่าบู๊สะบั้นหั่นแหลก ไม่หวงอาวุธ กระทั่งแปลงเป็นเป็นที่ชอบใจของแฟนหมัดมวยคนไทยไม่น้อย
โดยก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา “ช่อฟ้า” ถูกวางคิวให้เปิดตัวใน ศึก ONE 162 เมื่อเดือน ตุลาคมก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา แต่ว่าต้องถอนต่อย เนื่องมาจากจะต้องพักร่างกายตามคำแนะนำของหมอ
มาถึงเดี๋ยวนี้ “ช่อฟ้า” พร้อมแล้วที่กำลังจะได้เฉิดฉันบนเวทีสุดยอด โดยจะเจอหน้ากับ “ทาเกียร์ คาลิลอฟ” (อดีตคู่ปรับ “รถถัง จิตรเมืองนนท์” ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง) ในศึกมวยไทย รุ่นฟลายเวต (135 เปรียญ) ในศึก ONE 164: โจชัว vs จาร์เร็ด ซึ่งจะไประเบิดความมันกันที่ มอลล์ ออฟ ทวีปเอเชีย อารีท้องนา กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ในวันเสาร์ที่ 3 ธันวาคมนี้
ก่อนที่จะพวกเราจะได้มองเห็นความสามารถของสมาชิกใหม่ป้ายแดง พวกเราจะพาย้อนเรื่องราวชีวิตของ “ช่อฟ้า” กว่าจะได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักมวยไทยสุดยอดอย่างเต็มกำลัง ทำความรู้จัก “ช่อฟ้า ท.แสงเทียนน้อย” มีชื่อ-สกุลจริงว่า “สุวัฒน์ ติ่งนางรอง” ชื่อเล่น “บัว” เดี๋ยวนี้อายุ 29 ปี พื้นเพเริ่มแรกเป็นคน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ครอบครัวมีอาชีพทำสวนทำไร่ โดยเจ้าบัว เติบโตมาในครอบครัวที่มีวิถีชีวิตเรียบง่ายแบบเกษตรกรทั่วๆไปและไม่ได้ขัดสนมากสักเท่าไรนัก
“ช่อฟ้า” รู้จักกับมวยไทยคราวแรกเมื่ออายุโดยประมาณ 11 ขวบ โดยมีพี่ชายที่มีอำนาจเป็นลูกพี่ลูกน้องแล้วก็เป็นอดีตนักมวยเก่าเชิญชวนรวมกลุ่มกับเด็กชายผู้อื่นในบ้านใกล้เรือนเคียงมาฝึกฝนมวยเพื่อบริหารร่างกายแล้วก็ใช้เวลาว่างให้มีคุณประโยชน์ โดย “ช่อฟ้า” เองก็ยินดีที่จะติดตามเพื่อนพ้องๆพี่ๆไปด้วยทุกหนเพียงแค่เนื่องจากมีความเห็นว่าเป็นการเล่นสนุกสนานแค่นั้น มิได้รู้สึกถูกใจมวยไทยเป็นพิเศษ
แม้กระนั้นเมื่อได้มองเห็นพี่ชายขึ้นชกและก็ได้เงินรางวัล “ช่อฟ้า” ก็กำเนิดแรงดลใจต้องการจะหารายได้ด้วยตัวเองเพื่อเอาไว้จับจ่ายซื้อของเล่นที่อยากได้ตามประสาเด็ก แล้วก็เปรยๆกับพี่ชายว่าอยากได้เงินบ้าง พี่ชายก็เลยถามต้องการชกมวยไหม “ช่อฟ้า” ตอบตกลงแบบไม่ลังเลและก็เริ่มฝึกฝนมวยไทยอย่างเป็นจริงเป็นจัง จากการเล่นเพื่อบันเทิงใจไปวันๆแต่ว่าเมื่อได้ทราบจะมวยไทยอย่างถ่องแท้ “ช่อฟ้า” ก็เลยหลงเสน่ห์มวยไทยหมดหัวใจนับจากนั้นมา
หล้งจากฝึกหัดมวยไทยอย่างเข้มข้นได้ 1 เดือน พี่ชายก็ดัน “ช่อฟ้า” ขึ้นชกแรกในชีวิตในเวทีเทียบมวยที่มาจัดแถบบ้านใกล้เรือนเคียง โดยตอนนั้น “ช่อฟ้า” ขึ้นสังเวียนในชื่อ “คำใสน้อย” ที่พี่ชายเป็นคนตั้งให้ และก็กำชัยด้วยการชนะคะแนนคู่แข่งขัน ได้เงินค่าจ้าง 500 บาท เป็นรางวัล
หลังจากนั้น “ช่อฟ้า” ก็เริ่มเริมเดินสายสั่งสมกระดูกมวยไปทั่วอีสานอยู่ได้ราวๆ 1 ปี โดยแม้ว่าจะพึ่งจะต่อยได้เพียงแค่ 20 ไฟต์ “ช่อฟ้า” เริ่มมีชื่อเสียงในฐานะนักมวยจิตใจสู้บู๊พังทลายที่มีอาวุธทั้งยังหัวเข่าศอกสุดอันตราย จวบจนกระทั่งมีนักมวยรุ่นพี่มองเห็นแววรวมทั้งเชื้อเชิญให้ “ช่อฟ้า” ไปฝึกกับค่ายฝึกซ้อมมวยดัง “ท.แสงเทียนน้อย” ภายใต้ดูแลของหมัดระดับตำนาน “แสงเทียนน้อย ส.รุ่งโรจน์” ผู้วายชนม์ซึ่งเป็นหัวหน้าค่ายขณะนั้น
ข้างหลังได้รับการอนุญาตจากบิดาให้จากบ้านไปสืบต่ออนาคต “ช่อฟ้า” ก็ได้มาอยู่ภายใต้การดูแลของ “แสงเทียนน้อย” หรือ “พี่ตู่” ของคนมวย โดยได้สมญานามใหม่ว่า “เทียนขาว ท.แสงเทียนน้อย” ในเวลานั้น “เทียนขาว” ในวัยเพียงแค่ 12 ปี และก็พึ่งผ่านการต่อยมาไม่เท่าไหร่ “พี่ตู่” หัวหน้าค่ายก็เลยให้เขาสั่งสมกระดูกให้แข็งขึ้นด้วยการลาดตระเวนต่อยในเวทีเขตแดนทั่วทั้งประเทศอยู่ราว 3 ปี แล้วก็เขาก็ไม่ทำให้ผิดหวังโชว์ฟอร์มแข็งคว้าชัยนับไม่ถ้วน ก็เลยได้เวลาขึ้นชกมวยไทยมาตรฐานเวทีราชดำเนินเมื่ออายุราว 15 ปี เปิดฉากในพิกัด 102 ปอนด์
ชีวิตมีขึ้นมีลงเป็นปกติ เมื่อต่อยมาได้ระยะหนึ่ง “เทียนขาว” ในช่วงเวลานั้นกำเนิดฟอร์มตก แพ้รวดอยู่หลายไฟต์ จนกระทั่งมีเซียนมวยเสนอให้ “พี่ตู่” แสงเทียนน้อย แปลงสมญานามเพื่อแก้เคล็ดลับตามความเลื่อมใส ข้างหัวหน้าค่ายก็นึกไม่ออกว่าจะใช้ชื่อใหม่ว่าอะไรถึงจะดี
เวลาที่ใช้สมองอยู่นั้นก็ชำเลืองไปมองเห็นช่อฟ้าบนหลังคาโบสถ์ที่ตั้งอยู่ข้างหลังค่าย ก็เลยตกลงใจเปลี่ยนแปลงชื่อจาก “เทียนขาว” เป็น “ช่อฟ้า” ในทันที ไม่เชื่ออย่าหลบหลู่ หลังจากนั้นฟอร์มของ “ช่อฟ้า” ก็เริ่มดีวันดีคืนอย่างไม่น่าเชื่อจนถึงความสามารถเข้าฝักรวมทั้งเบาๆสร้างชื่อเป็นลำดับ ก้าวขึ้นมาเป็นเยี่ยมในนักมวยฝีมือเยี่ยมที่ได้รับการยินยอมรับตลอดหลายปีก่อน
ปี 2561 นับได้ว่าเป็นปีที่ความก้าวหน้าของ “ช่อฟ้า” โดยเขาถูกเกาะติดคู่กับอีกหนึ่งยอดนักบู๊อย่าง “รถถัง จิตรเมืองความรื่นเริง” ที่กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในตอนนั้น รวมทั้งเมื่อสองนักมวยสายบู๊มาเจอะกัน ความมันย่อมมีขึ้น ถึงแม้ “ช่อฟ้า” จะเป็นข้างปราชัยคะแนนไป แม้กระนั้นก็ได้ดวงใจผู้ชมด้วยหัวจิตหัวใจนักสู้แลกเปลี่ยนอาวุธกันแบบคู่คี่ใกล้เคียง จนได้รับรางวัลไฟต์ดุเดือดเลือดพล่านที่ปี 2561 ของเวทีราชดำเนิน
จากผลงานเยี่ยมที่สุดดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นส่งให้ “ช่อฟ้า” ได้รับการเสนอชื่อให้รับรางวัล “ยอดมวย” ถ้วยพระราชทานในปีนั้นด้วยแต่ว่าก็เสียโอกาสไปอย่างโชคร้าย อย่างไรก็ดี ถัดมาเขาก็ได้รางวัลปลอบประโลมใจโดยสามารถครองแชมป์มวยไทย รุ่นไลต์เวต สัมพันธ์กีฬาชกมวยไทยนายของหวานต้มในปี 2564
จากผลงานและก็ฟอร์มการต่อยที่บู๊ดุเดือดไม่ยอมแพ้กล้วยๆเหมาะสมกับตลาดอินเตอร์ “ช่อฟ้า” ก็เลยได้รับช่องทางให้เข้าขึ้นอยู่กับ ONE โดยพื้นฐานจะลงแข่งขันในข้อตกลงมวยไทย รุ่นฟลายเวต ซึ่งจัดว่าอัดแน่นไปด้วยตัวอันตราย และก็แม้ “ช่อฟ้า” ทำฟอร์มได้งามในรุ่นนี้ ก็อาจมีช่องทางที่จะวนกลับไปพบกับคู่ต่อสู้เก่าอย่าง “รถถัง” ในอนาคตก็เป็นไปได้
ติดตามข่าวสารทุกวงการมวยได้ที่ muaytoday.com
แทงมวยออนไลน์ ราคาน้ำที่ดีที่สุดในประเทศไทย