หลังจาก “กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี” ทำผลงานทำช็อคโลกด้วยการทุบสถิติน็อกไวไปด้วยเวลาเพียงแค่ 6 วินาที ติด 1 ใน 5 น็อกเอาต์ยอดเยี่ยมปี 2563 ของ วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ และผลงานนั้นเองทำให้ กัปปิตัน คว้าตั๋วฟาสต์แทร็กได้ท้าชิงแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตั้มเวต กับเจ้าของเข็มขัดชาวรัสเซีย “Babyface Killer” อลาเวอร์ดี รามาซานอฟ ทันที ในฐานะคู่เอกชูโรงศึกแรกแห่งปี 2564 ONE: UNBREAKABLE ในวันศุกร์ที่ 22 มกราคมนี้ ยิงสดจาก สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม ตั้งแต่เวลา 19.30 น. เป็นต้นไป ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้เปิดใจก่อนชกว่า กัปปิตัน คว้าตั๋วฟาสต์แทร็กได้ท้าชิงแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต กับเจ้าของเข็มขัดชาวรัสเซีย “Babyface Killer” อลาเวอร์ดี รามาซานอฟ ทันที ในฐานะคู่เอกชูโรงศึกแรกแห่งปี 2564 ONE: UNBREAKABLE ในวันศุกร์ที่ 22 มกราคมนี้ ยิงสดจาก สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม ตั้งแต่เวลา 19.30 น. เป็นต้นไปหลังจากนั้น
กัปปิตัน ก็ขึ้นชกเวทีมวยในประเทศ ดวลกับสองนักชกที่อยู่ในสังกัดของ วัน แชมเปียนชิพ เช่นเดียวกัน ทั้ง “ฉมวกทอง ไฟต์เตอร์มวยไทย” และ “แสงมณี ส.กาแฟมวยไทย” โดย กัปปิตัน โชว์ความเก๋าเอาชนะไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์ทั้งสองไฟต์ และก็ยิ่งทำให้เจ้าตัวมีความมั่นใจมากขึ้นด้วยสถิติไม่แพ้ใครต่อเนื่องถึง 13 ไฟต์ เมื่อรู้ว่าจะต้องขึ้นชิงแชมป์โลกกับ อลาเวอร์ดี ในราวกลางเดือนธันวาคม 2563 กัปปิตัน ถึงกับลิงโลด เพราะเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ว่าจะต้องคว้าแชมป์โลก ONE ให้ได้ ขยับเข้ามาใกล้แค่เอื้อม “อลาเวอร์ดี เขาเป็นมวยฝรั่งจ๋า ชกยาก เขาพร้อมจะออกอาวุธได้ทุกรูปแบบ ผมต้องคอยจับจังหวะเขาให้ถูก แต่โดยรวมไม่มีจุดไหนน่ากลัว ทั้งกระดูกมวยและประสบการณ์ ผมคิดว่าเหนือกว่าเขาทุกอย่าง ถ้าเขาได้โดนลูกหนัก ๆ ของผมเข้าเต็ม ๆ รับรองว่าไปไม่เป็นเหมือนกันครับ โดยเฉพาะหมัดกับเตะพับนอก” “จุดแข็งของเขาคงเป็นเรื่องของความสูงใหญ่ (กัปปิตัน 169 ซม. / อลาเวอร์ดี 180 ซม.) แต่จุดอ่อนของเขาคือห่างเวทีไปนานเป็นปี ผมมั่นใจว่าร่างกายผมเตรียมตัวมาดีกว่า ได้มีการชกต่อเนื่องหลายไฟต์ในปีที่ผ่านมา”
แน่นอนว่านักมวยในค่ายกำลังจะมีไฟต์ระดับชิงแชมป์โลกทั้งที ทางด้านเพชรยินดีฯ ก็ให้การผลักดันและสนับสนุนอย่างเต็มที่ ซึ่งไฟต์นี้นอกจาก กัปปิตัน จะได้อดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต “เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี” มาเป็นคู่ซ้อมแล้ว ยังได้ “แสงอาทิตย์ ลูกทรายกองดิน” แชมป์ WBA Asia มาลงนวมซ้อมหมัดให้เป็นพิเศษ และได้ “หนึ่ง” ฉัตรชัย สาสะกุล อดีตแชมป์โลก WBC มาเสริมทัพ โดยมีโค้ชคนสำคัญอย่าง “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ ผู้บริหารค่ายเพชรยินดีอะคาเดมี มาควบคุมการซ้อมอย่างใกล้ชิดด้วยตัวเอง ศึกนี้ กัปปิตัน วางแผนเปิดเกมเร็ว โดยเดินไล่ประชิดเพื่อแก้จุดอ่อนที่เสียเปรียบช่วงชกของคู่แข่ง พร้อมกันนี้หลังจาก อลาเวอร์ดี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ฝากถึง กัปปิตัน ว่า “ถ้าเขาดีมา ผมก็ดีตอบ ผมจะไม่น็อกเขา แต่ถ้าเขาไม่ดีด้วย ผมจะน็อกเขาภายใน 5 วินาที ไม่ใช่ 6!” ก็ถึงเวลาที่ กัปปิตัน จะขอพูดบ้าง… “ถ้าขาไม่หัก กรามไม่แตก ก็ชนะไป คุณเตรียมตัวมาให้ดี ผมลุยเข้าหาอยู่แล้ว และจะเอาให้ถึงน็อกเหมือนกัน ผมมั่นใจว่าเข็มขัดจะเป็นของผม 100%”